รวมพลังแสดงจุดยืน “การตอบโต้การปรับเซอร์ชาร์จกระดาษนำเข้าจะกระทบการส่งออกและสังคมแห่งการเรียนรู้ทันที”

พฤหัส ๒๕ สิงหาคม ๒๐๑๑ ๑๔:๐๐
สหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ซึ่งประกอบด้วย 9 สมาคมคือกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมแยกสีแม่พิมพ์เพื่ออุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย สมาคมการพิมพ์ไทย สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย สมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย สมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย สมาคมส่งเสริมวิชาการพิมพ์ สมาคมการพิมพ์สกรีนไทย และชมรมการจัดพิมพ์อิเล็กทรอนิกไทย ร่วมกับ 3 สมาคมคือ สมาคมนิตยสารแห่งประเทศไทย สมาคมไทยค้ากระดาษและสมุด สมาคมการค้าวัสดุอุปกรณ์การพิมพ์ไทย รวมพลังคัดค้านการบังคับใช้กฎหมายตอบโต้การทุ่มตลาด (anti-dumping) สินค้ากระดาษ โดยจัดกิจกรรม “รวมพลังเดินเพื่อสุขภาพและอนาคตของอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย” ขึ้น หวังให้ทุกภาคส่วนตระหนักรู้ถึงผลกระทบจากการกำหนดอัตราเรียกเก็บเงินส่วนต่าง (เซอร์ชาร์จ) จากการนำเข้ากระดาษต่างประเทศ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมผู้ผลิตกระดาษในประเทศเป็นสำคัญ ย่อมส่งผลให้อุตสาหกรรมการพิมพ์ ผู้ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างไม่เป็นธรรม จะมีผลต่อการแข่งขันในภูมิภาคที่ประเทศไทยส่งออกสิ่งพิมพ์สูงขึ้นตลอด 5 ปี หลังจากมีการรณรงค์ลดอัตราภาษีการนำเข้ากระดาษเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์ เมื่อปี 2549 ตลอดจนสามารถผลักดันนโยบายส่งเสริมการอ่านของรัฐบาลให้เป็นวาระแห่งชาติ จนกรุงเทพมหานครได้รับการคัดเลือกให้เป็น World Book Capital จากยูเนสโก ในปี 2556

นายทวีชัย เตชะวิเชียร ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ เปิดเผยว่า จากมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นนโยบายเขตการค้าเสรี ส่งผลให้ปัจจุบันมีอัตราเพิ่มขึ้นของตลาดนำเข้าสินค้ากระดาษและกระดาษแข็งเคลือบจากต่างประเทศ และได้มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการพิมพ์ เพราะทำให้ราคากระดาษมีเสถียรภาพและมีปริมาณกระดาษเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ ซึ่งปัจจุบันปริมาณการผลิตในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการอันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการพิมพ์

แม้การนำเข้ากระดาษแข็งเคลือบจะทำให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์ แต่บริษัทผู้ผลิตกระดาษรายใหญ่ในประเทศที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันเสรีได้ยื่นจดหมายร้องเรียนต่อกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ขอให้มีการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้ากระดาษและกระดาษแข็งเคลือบที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่นและไต้หวัน โดยคณะกรรมการไต่สวนฯ ของกรมการค้าต่างประเทศได้ตั้งอัตราเรียกเก็บเงินส่วนต่าง (เซอร์ชาร์จ) เบื้องต้นจาก 5 ประเทศดังกล่าวในอัตราที่แตกต่างกันไปแล้ว

ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการพิมพ์และผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องต้องกันว่าหากคำร้องการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้ากระดาษดังกล่าวไปถึงบทสรุป จะต้องมีการจัดเก็บเซอร์ชาร์จจริงไม่ว่าในอัตราเท่าใดก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสิ่งพิมพ์ทุกชนิดอันเป็นการสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้สิ่งพิมพ์ เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการพิมพ์ทั้งระบบ ความสามารถในการแข่งขันในตลาดการพิมพ์ต่างประเทศจะลดลงจนทำให้มูลค่าการส่งออกสิ่งพิมพ์ลดลง ที่สำคัญยังเป็นการขัดขวางนโยบายส่งเสริมการเรียนรู้ (Anti Knowledge) ที่มุ่งให้ราคาหนังสือมีราคาถูกลง และเป็นอุปสรรคต่อแผนส่งเสริมการอ่านของรัฐบาล นโยบายวาระการอ่านแห่งชาติ และโครงการ Bangkok Read For Life ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับการประกาศจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นเมืองหนังสือโลกในปี 2556 (World Book Capital 2013)

ฉะนั้น การตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping) จึงสร้างวิกฤติให้กับอุตสาหกรรมการพิมพ์ของไทยตลอดจนอุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์ (Anti Printing) สื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร และหนังสือ (Anti Knowledge) ที่ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น นำไปสู่ผลเสียหายมหาศาลต่ออุตสาหกรรมการพิมพ์ของไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกงานพิมพ์เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียและเป็นฐานการผลิตสิ่งพิมพ์รายใหญ่จากผู้สั่งซื้อต่างชาติ และที่สำคัญขัดขวางการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นที่มาของการจัด กิจกรรม “รวมพลังเดินเพื่อสุขภาพและอนาคตของอุตสาหกรรมการพิมพ์” ขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี เพื่อเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องออกมาแสดงพลัง และประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการเก็บเซอร์ชาร์จเพิ่ม เพราะเป็นการขัดขวางการพัฒนาอุตสาหกรรมการพิมพ์และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

คุณมรุต ทวีเพ็ชร / คุณศุภมาศ พูลสวัสดิ์

บริษัท ไอเดียเวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัดอีเมล์: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO