ธุรกิจประกันภัยได้นำสินทรัพย์ไปลงทุนจำนวน 1,409,751 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.45 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 93.15 ของสินทรัพย์รวม โดยแบ่งได้ดังนี้
- การลงทุนของธุรกิจประกันชีวิตจำนวน 1,253,498 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.39 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 95.10 ของสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันชีวิต
- การลงทุนของธุรกิจประกันวินาศภัยจำนวน 156,253 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.93 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 79.99 ของสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันวินาศภัย
ทั้งนี้ สินทรัพย์ส่วนใหญ่ที่ธุรกิจประกันภัยลงทุนเป็นสินทรัพย์ ที่มีความเสี่ยงต่ำ คือพันธบัตร ตั๋วเงินคลัง เงินฝากธนาคาร หุ้นกู้ และตั๋วสัญญาใช้เงิน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80.75 ของสินทรัพย์ลงทุนรวมทั้งสิ้น เป็นจำนวนเงินเท่ากับ 1,138,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.88 โดยลงทุนในพันธบัตรสูงสุด จำนวน 819,747 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 58.15 ของสินทรัพย์ลงทุนรวมทั้งสิ้น และลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 271,370 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.25 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 27.62 โดยลงทุนในหุ้นทุนสูงสุดจำนวน 158,473 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.24 ของสินทรัพย์ลงทุนรวมทั้งสิ้น
เลขาธิการกล่าวเพิ่มเติมว่า เงินกองทุนของธุรกิจประกันภัย ณ 30 มิถุนายน 2554 มีจำนวน 254,788 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 16.69 มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธุรกิจต้องดำรงตามกฎหมายเท่ากับ 823.92 เมื่อพิจารณาประเภทธุรกิจพบว่าธุรกิจประกันชีวิตมีเงินกองทุนจำนวน 184,796 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.71 มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธุรกิจต้องดำรงตามกฎหมายเท่ากับ 881.32% ธุรกิจประกัน วินาศภัยมีเงินกองทุนจำนวน 69,992 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.08 มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธุรกิจต้องดำรงตามกฎหมายเท่ากับ 703.01% ซึ่งสัดส่วนนี้ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก แสดงให้เห็นว่าธุรกิจประกันภัยยังมีเงินกองทุนที่เข้มแข็งมากเพียงพอในการรองรับความเสี่ยงสูงที่อาจจะเกิดขึ้นได้