นายปราโมทย์ เจษฎาวรางกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้านรูปแบบ และโครงการที่แตกต่าง โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ซึ่งผ่านการดำเนินงานมากว่า 27 ปี มาถึงปัจจุบันกว่า 60 โครงการ 20,000 กว่าครอบครัว ด้วยการวิจัยพัฒนาโครงการ สร้างความหลากหลายของรูปแบบให้ตรงกับความต้องการ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการคิดนอกกรอบการสร้างความแตกต่างที่โดดเด่น และเพื่อตอบโจทย์ที่ว่า “เราไม่ได้ขายแค่บ้าน แต่เราขายคุณภาพชีวิต” บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวโครงการ “เดอะพาลาซเซตโต้” โครงการบ้านแนวคิดใหม่โครงการแรกในวังน้อย ที่ให้ความแตกต่าง ไม่จำเจ ด้วยคอนเซป “ความสุข ไม่รู้จบ ที่ เดอะพาลาซเซตโต้”
โครงการ “เดอะพาลาซเซตโต้” เป็นบ้านแฝด ชั้นเดียว 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ บนที่ดินขนาด 41 ตร.ว. เนื้อที่ใช้สอย 90.5 ตร.ม. ด้วยทำเลสุดสวยริมถนนพหลโยธิน กม.64 ย่านวังน้อย อยุธยา ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท มีจำนวน 500 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,300 ล้านบาท
“Never ending happiness” หรือ “ความสุข...ไม่รู้จบ ที่เดอะพาลาซเซตโต้” คือนิยามของโครงการบ้านแนวคิดใหม่ ครั้งแรกในอยุธยา โดยวังทองกรุ๊ป เพื่อให้เป็นโครงการสมบูรณ์แบบที่สุด ในอยุธยา ที่สรรค์สร้างทุกความสุขให้กับลูกบ้าน ทั้งการออกแบบตัวโครงการ แบบบ้าน ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ตลอดจนการดูแลเอาใจใส่ลูกบ้านทุกหลัง
เอกลักษณ์การออกแบบบ้านไม่เหมือนใคร สไตล์อิตาลี ทัสคานี Tuscany Country Design ซึ่งจะโดดเด่นสุดตาจากทุกมุมมองภายนอก ด้วยสีสันสดใสบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ และใช้หินประดับตกแต่งโครงสร้างภายในเป็นห้องเพดานสูงทุกห้อง ให้ความารู้สึกโปร่ง โล่ง อยู่สบาย ให้ความเป็นส่วนตัวไม่แออัด ด้วยการจำกัดจำนวนยูนิตในแต่ละโซน ท่ามกลางความสงบร่มรื่นของธรรมชาติอากาศดี พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของการรับประกัน และบริการหลังการขาย ด้วยบริการดูแลบ้าน 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV รอบโครงการ ทั้งยังช่วยดูแลซ่อมแซมงานบ้านจิปาถะ จนถึงระบบไฟฟ้า และประปาภายในบ้าน พร้อมทั้งมีถนนเข้าออกโครงการหลัก 16 เมตร ถนน Main ในโครงการกว้าง 12 เมตร ทั้งยังมีสวนสาธารณะกว้างใหญ่
นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ถือกฤษ์วันที่ 9 เดือน 9 เตรียม Grand Opening เดอะพาลาซเซตโต้ พร้อมอัดโปรโมชั่นอีกเพียบ และนอกจากนี้ในปี 2554 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 1,500 ล้านบาท (ยังไม่รวมโครงการเดอะพาลาซเซตโต้) ซึ่งขณะนี้ผ่านไป 6 เดือนแล้ว เราสามารถทำยอดขายได้แล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนเรามีอัตราการเติบโตกว่าช่วงระหว่าง 6 เดือนเวลาเดียวกันประมาณ 10 %
สำหรับกลยุทธ์ในปี 2554 ทางบริษัทฯ ยังคงวางแนวทางการลงทุนในโครงการทาวน์เฮ้าส์มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาจะเป็นการลงทุนในบ้านเดี่ยวประมาณ 60 % และทาวน์เฮ้าส์ 40 % ซึ่งเราจะปรับการลงทุนเป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์มากกว่าในสัดส่วน 60:40 ในปีหน้า ที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยรูปแบบโครงการจะเน้นการออกแบบฟังชั่นการใช้สอย และดีไซน์เป็นสำคัญ ซึ่งเรามองว่าตลาดระดับนี้ยังมีกำลังซื้อที่สูงอยู่
นายปราโมทย์ กล่าวต่ออีกว่า จากปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตดังกล่าว มาจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจดีขึ้น และมีความเชื่อมั่นในโครงการของ “วังทองกรุ๊ป” นอกจากนี้คาดว่าแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปีนี้ จนถึงปี 2555 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และทั้งบรรยากาศการเมืองคลี่คลายลง และชัดเจนแล้ว คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่มีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อมีมากขึ้นไปตามกระแสเศรษฐกิจ