ภาครัฐและเอกชนไทย-จีน จับมือจัดงานแสดงสุดยอดสินค้ามณฑลกวางตุ้ง ครั้งที่ 2 หวังกระตุ้นการค้าพร้อมสร้างโอกาสธุรกิจเอสเอ็มอี

ศุกร์ ๐๒ กันยายน ๒๐๑๑ ๑๔:๐๙
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับบริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. ไชน่า และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เตรียมจัดงานแสดงสุดยอดสินค้ามณฑลกวางตุ้ง ครั้งที่ 2 (Guangdong Products Show 2011) ในวันที่ 22-24 กันยายน 2554 ณ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าและธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย-จีน รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับโอกาสและแนวทางการทำธุรกิจกับมณฑลกวางตุ้ง

นายสวี่ เจี๋ย รองประธานหอการค้าเพื่อผู้ส่งออกและนำเข้าแห่งมณฑลกวางตุ้ง กล่าวว่า กวางตุ้งเป็นมณฑลที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจก้าวหน้าที่สุดและมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของจีน เป็นศูนย์กลางด้านการเมือง เศรษฐกิจ การคมนาคมและวัฒนธรรมทางภาคใต้ของประเทศ อีกทั้งเป็นแหล่งผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมหลากหลายจนได้ชื่อว่าเป็นโรงงานของโลก ทั้งนี้ ภาครัฐได้ดำเนินมาตรการส่งเสริมภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเพื่อดึงดูดนักลงทุน เช่น พัฒนาระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก ปรับปรุงระบบการขนส่ง อำนวยความสะดวกด้านศุลกากร รวมถึงปรับปรุงระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เอื้อต่อการลงทุน

“ไทยเป็นคู่ค้าสำคัญของมณฑลกวางตุ้งมายาวนาน โดยในปี 2553 มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 32.3 และคิดเป็นร้อยละ 32.22 ของมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับไทย อีกทั้งกวางตุ้งยังมองว่าไทยเป็นประตูสู่การค้าในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย การจัดงานแสดงสุดยอดสินค้ามณฑลกวางตุ้งในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน และเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยรวมถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในการเข้าถึงมณฑลกวางตุ้งในฐานะแหล่งจัดซื้อจัดหาสินค้า และเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีผู้บริโภคมากกว่า 80 ล้านคน โดยอาศัยข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน”

นายหวง เจี้ยนเฉิง ผู้อำนวยการบริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. ไชน่า กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเปิดประตูการค้าสู่อาเซียน ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่บนศูนย์กลางยุทธศาสตร์อินโดจีน โดยมีแม่น้ำโขงเป็นช่องทางการเชื่อมสู่หลายประเทศในภูมิภาคและยังเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการคมนาคมทางอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นจุดผ่านสินค้าจากมณฑลกวางตุ้งสู่อาเซียน นอกจากนี้ยังมีนโยบายการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากประเทศจีน ผ่านลาว ไทย มาเลเซีย บรรจบที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นการผลักดันการค้าระหว่างประเทศอาเซียนอีกด้วย ที่สำคัญการจัดงานแสดงสุดยอดสินค้ามณฑลกวางตุ้งครั้งแรกในปีที่แล้วประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ โดยได้รับความสนใจจากหน่วยงานในประเทศไทยจากทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างมาก ด้วยผู้ประกอบจีนที่เข้าร่วมแสดงสินค้าภายในงานถึง 128 บริษัท และผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนทั่วไปที่เดินทางมาเข้าชมงานกว่าหมื่นคน เราจึงเดินหน้าจัดงานดังกล่าวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการเจรจาธุรกิจ และกิจกรรมส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการค้าและธุรกิจระหว่างประเทศจีนกับไทยเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการสัมมนาให้ความรู้ และการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจโดยผู้เชี่ยวชาญ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานจากภาคธุรกิจมากกว่า 8,000 ราย

“สินค้าที่จะนำมาจัดแสดงบนพื้นที่ถึง 5,000 ตารางเมตรในครั้งนี้ ทางผู้จัดงานได้ให้ความใส่ใจกับการคัดเลือกบริษัทที่จะมาเข้าร่วมงาน โดยได้คัดสรรเอาสินค้าคุณภาพจากผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองคุณภาพโดยรัฐบาลจีน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของมณฑลกวางตุ้งในฐานะมณฑลแห่งสินค้าคุณภาพ มณฑลแห่งความทันสมัย และมณฑลแห่งสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งจะครอบคลุม 5 อุตสาหกรรมสำคัญของมณฑลกวางตุ้ง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอที เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน โคมไฟและอุปกรณ์เกี่ยวกับแสงสว่าง ของเล่น ตลอดจนอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ จากผู้ผลิตรวมกว่า 150 บริษัท นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การเจรจาจับคู่ธุรกิจกับบริษัทชั้นนำ การสัมมนาในหัวข้อที่เป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจกับจีนโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งมณฑลกวางตุ้ง เช่น วิธีปฏิบัติในการติดต่อกับนักธุรกิกวางตุ้ง และเฟอร์นิเจอร์ระดับโลกจากเมืองตงก่วน และการสัมมนาให้ความรู้โดยธนาคารกสิกรไทยในหลายหัวข้อ รวมถึงมีคลีนิคให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการทำธุรกิจกับมณฑลกวางตุ้งอีกด้วย” นายหวง เจี้ยนเฉิง กล่าว

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานแสดงสินค้า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวเสริมว่า “จีนเป็นตลาดใหญ่และมีความสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าของไทยจัดอยู่ในลำดับที่ 6 หากดูจากตัวเลขผู้เข้าชมงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศ อย่างไรก็ดีนักธุรกิจกลุ่มไมซ์โดยรวมจากจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยนั้นอยู่ในอันดับ 2 รองจากตลาดอินเดีย และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ 15-20 ต่อปีอีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง จากสถิติในปี 2553 ไทยมีจำนวนผู้เดินทางกลุ่มไมซ์จากจีนเป็นจำนวนกว่า 45,000 คน สร้างรายได้แก่ประเทศไทยกว่า 2,800 ล้านบาทที่สำคัญไปกว่านั้นงานนี้ยังเป็นความร่วมมือกันในระดับภาครัฐโดยมีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งมณฑลกวางตุ้งเป็นผู้จัดงาน ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ

จากความสำคัญของตลาดไมซ์ในประเทศจีน สสปน. ได้พัฒนากิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แคมเปญการตลาด Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อม โดยเฉพาะการส่งเสริมด้านการค้าระหว่างสองประเทศผ่านการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติโดยเน้นที่ความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานครในฐานะมหานครแห่งงานแสดงนิทรรศการนานาชาติของอาเซียน ทั้งการบริการอย่างมืออาชีพในการจัดงานแสดงสินค้า ศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐานสากล ความหลากหลายของสถานที่จัดงาน และโอกาสทางธุรกิจที่ต่อยอดนำไปสู่การค้าการลงทุน สสปน.ได้ให้การสนับสนุนงาน Guangdong Product Show อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในการทำการตลาดในต่างประเทศและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด อาทิ โปรแกรม Extra Night Extra Smile ซึ่งเป็นการให้ห้องพักฟรี 1 คืนสำหรับนักธุรกิจที่จองห้องพักอย่างน้อย 2 คืนรวมถึงบริการ VIP Fast Track เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิและโปรแกรม Be My Guest ซึ่งเป็นการให้ห้องพักสำหรับผู้ซื้อรายใหญ่จำนวน 2 คืน โดยหวังให้งานนี้เป็นเวทีสำคัญที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรงในการกระตุ้นเศรษฐกิจอันเกิดจากการซื้อขายและการแลกเปลี่ยนความรู้ทางธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนทางอ้อมจากการใช้จ่ายของนักธุรกิจต่างชาติที่เข้าเยี่ยมชมงาน” นางศุภวรรณ กล่าว

ด้านนายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารธุรกิจจีนและสำนักงานต่างประเทศ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้มุ่งให้บริการเพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างไทยและจีนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านบริการทางการเงิน ตลอดจนการให้องค์ความรู้ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ โดยเฉพาะการเปิดศูนย์ธุรกิจไทย-จีน ที่ให้บริการอย่างครบวงจรเป็นแห่งแรกของประเทศไทย พร้อมทั้งมีการจัดงานสัมมนาทางเศรษฐกิจ ธุรกิจและวัฒนธรรม เพื่อให้ความรู้แก่ธุรกิจไทยจีนในการทำธุรกิจระหว่างกันมาโดยตลอด สำหรับงาน Guangdong Product Show 2011 ธนาคารกสิกรไทย ได้เข้าร่วมสนับสนุนการจัดงานนี้ ด้วยหัวข้อการสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการที่สนใจจะทำธุรกิจกับประเทศจีนและมณฑลกวางตุ้งในหลายหัวข้อ โดยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้คร่ำหวอดในการทำธุรกิจกับประเทศจีน อาทิ การเตรียมพร้อมรับมือกับกระแสจีนภิวัฒน์ ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน โอกาสทางธุรกิจสำหรับธุรกิจไทยในจีน สิ่งที่ควรคำนึงถึงและรูปแบบการทำธุรกิจกับจีน และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำธุรกิจกับจีน เป็นต้น

งานแสดงสุดยอดสินค้ามณฑลกวางตุ้ง ครั้งที่ 2 (Guangdong Products Show 2011) จะเปิดให้เข้าชมในวันที่ 23-23 กันยายน 2554 เวลา 10.00-18.00 น. และวันที่ 24 กันยายน 2554 เวลา 10.00-17.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และผู้เข้าชมงานจะได้รับของที่ระลึกจากมณฑลกวางตุ้งอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.guangdongshow.com

บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. จำกัด

ชยมนต์ จิตเมตตา

โทร. 0-2664-6488

บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด

พิมพกานต์ ไชยสังข์ / มณฑิรา นิ่งสมบูรณ์ / ปพนพัชร์ ณัฐวีรพจน์

โทร. 0-2610-2383 โทรสาร 0-2610-2345-6

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ