นายชนินทร์เดช วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) (CYBER) เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ขยายไลน์ธุรกิจ โดยได้รุกเข้าไปในกลุ่มธุรกิจขายตรงมากขึ้นซึ่งที่ผ่านมา CYBER ได้ร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท นู ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด โดยมอบแท็บเล็ตให้กับสมาชิกของนูไลฟ์ฯ ฟรี ซึ่งภายในแท็บเล็ตดังกล่าวได้มีการพัฒนา Software ที่เอื้อประโยชน์ต่อการใช้ในการดำเนินธุรกิจของสมาชิกนูไลฟ์ โดยมีความโดดเด่นด้าน Content ที่หลากหลาย เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาและเสริมศักยภาพในการทำงาน นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านทางแท็บเล็ตได้ และมีการเพิ่มตัว Social network ซึ่งจะช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรวดเร็ว ด้วยโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อการใช้งาน โดยเฉพาะ
ทั้งนี้ CYBER จะเป็นผู้ผลิตทั้ง Hardware และ Software ให้ฟรี แต่บริการผู้ใช้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนเป็นค่าบริการข้อมูลเดือนละ 550 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งในส่วนของ นูไลฟ์ คาดว่าจะเริ่มส่งมอบเครื่องแท็บเล็ตได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่ง CYBER จะรับรู้รายได้เมื่อมีการนำเครื่องแท็บเล็ตไปใช้ พร้อมกันนี้ในเบื้องต้นได้ตั้งเป้าการขายไว้ที่ 10,000 เครื่องต่อปี จากจำนวนสมาชิกของนูไลฟ์ในปัจจุบันที่มีประมาณหนึ่งแสนคน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของการขยายธุรกิจในอนาคต โดยทั้งโครงการมีสัญญาขายทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 140 ล้านบาท
“โครงการนี้เกิดขึ้นเพราะก่อนหน้านี้ CYBER มีนโยบายแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนในสถาบันเสริมทักษะการเรียนรู้สำหรับเด็ก “Genius planet” ซึ่งผลจากการนำไปใช้ในระบบโรงเรียนแล้วประสบความสำเร็จ นักเรียนส่วนใหญ่สอบผ่านและมีผลคะแนนที่ค่อนข้างดี ดังนั้นผู้บริหารจึงมองว่าอุปกรณ์ดังกล่าวน่าจะใช้ประโยชน์กับธุรกิจอื่นๆ ได้อีก และจากการวิเคราะห์แล้วพบว่าธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ มีแนวโน้มการเติบโตสูง อีกทั้งมีจำนวนสมาชิกค่อนข้างมาก จึงได้นำเสนอโครงการนี้ให้กับนูไลฟ์ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีและใช้ระยะเวลาในการหารือร่วมกันประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งสามารถตกลงเป็นความร่วมมือทางธุรกิจในวันนี้”
เขากล่าวต่อว่าในอนาคตธุรกิจการทำแท็บเล็ตจะเพิ่มสัดส่วนรายได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีโอกาสที่จะขยับมาเป็นรายได้หลักให้กับ CYBER เพราะธุรกิจการผลิตและจำหน่ายเกมส์ ที่เป็นรายได้หลักในปัจจุบันมีแนวโน้มว่าสัดส่วนรายได้จะค่อยๆ ลดลง เนื่องจากลูกค้าฝั่งยุโรปและอเมริกา มีปัญหาด้านการสั่งซื้อและบางบริษัทมีการปิดตัวลงไปพอสมควร ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการขยายตลาดและสร้างรายได้ของบริษัท ทั้งนี้ในปัจจุบัน CYBER อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการ ประเภทขายตรงรายอื่นๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะเพิ่มฐานลูกค้าที่ใช้งาน Software ของบริษัทผ่านการใช้ข้อมูลรายเดือนมากขึ้น และการเข้ามาเป็นเจ้าแรกในตลาดนี้ จะทำให้มีความได้เปรียบกว่าคู่แข่ง แต่ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ธุรกิจทางด้านไอทีมักมีการแข่งขัน แต่การเข้ามาก่อนจะทำสามารถสร้างตลาดได้เร็วและเชี่ยวชาญกว่า