ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวเปิดโครงการ “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 มั่นใจเมืองไทยพร้อม” ร่วมกับ นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “We Want Expo” หรือ “รวมพลัง ร่วมใจ สนับสนุนไทยเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020” ระหว่างวันที่ 2 — 4 ก.ย.54 ณ ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ผ่านกิจกรรมในรูปแบบมัลติมีเดีย เอ็กซิบิชั่น เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามามีส่วนร่วมโครงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 อย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลาง ก่อนขยายผลการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เชิงลึกไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และขยายเครือข่ายการดำเนินงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป เพื่อให้โครงการประมูลสิทธิ์เพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมโลก “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020” ในครั้งนี้เป็นโครงการของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมเผย 100,000 แรงใจของคนไทยจากกิจกรรมระดมพลังผ่าน “I Want EXPO Card” ที่ได้เดินสายรวบรวมความคิดเห็นและกำลังใจจากประชาชนทั่วไปใน 6 ย่านธุรกิจทั่วกรุงเทพ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และแสดงให้เห็นว่าประชาชนชาวไทยให้ความสนใจในกิจกรรมดังกล่าวอย่างยิ่ง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและ สสปน.ในการสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์โครงการฯ ว่า เป็นการจุดประกายความร่วมมือระหว่างภาครัฐในการสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ของประเทศไทย โดยกรุงเทพมหานครพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านสำนักงานเขตทั้ง 50 แห่ง เพื่อให้เข้าถึงประชาชนกรุงเทพฯ ในทุกพื้นที่ พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดโอกาสให้มีการประชาสัมพันธ์โครงการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมโลกเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ผ่านเวทีสัมมนาเครือข่ายความร่วมมือประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร กับหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน กว่า 50 หน่วยงาน เพื่อให้เครือข่ายประชาสัมพันธ์ทั้งหมดได้ร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลโครงการให้เป็นที่รู้จัก และเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงาน เพื่อแสดงพลังในการสนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มที่ พร้อมสานต่อความร่วมมือในการสนับสนุนโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในการดึงงานใหญ่ครั้งนี้เข้าสู่ประเทศไทยให้ได้ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครในฐานะเมืองหลวงปัจจุบันที่สืบทอดเจตนารมณ์ทางประวัติศาสตร์จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในฐานะเมืองหลวงในอดีต ถือเป็น “ประตูสู่เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 อยุธยา” ซึ่งนักเดินทางส่วนใหญ่ที่เข้าชมงานสามารถใช้เส้นทางเครือข่ายคมนาคมในกรุงเทพฯ เชื่อมโยงกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้อย่างสะดวกสบาย
สำหรับกิจกรรมภายในงาน “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 มั่นใจเมืองไทยพร้อม” ประกอบไปด้วยกิจกรรมให้ความรู้และกิจกรรมร่วมสนุกมากมาย อาทิ การร่วมย้อนอดีตรับชมประวัติศาสตร์ “ประเทศไทยกับการเข้าร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป” ตั้งแต่สมัยรัชกาล 4 จนถึงปัจจุบัน โดยประเทศไทยเข้าร่วมงานมาแล้วกว่า 30 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.1862 พร้อมร่วมรับชมภาพศาลาไทยในอดีตที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ผ่านนิทรรศการล้ำสมัยในรูปแบบ “มัลติมีเดีย เอ็กซิบิชั่น” และตื่นตาตื่นใจพร้อมได้สาระความรู้กับ “หุ่นยนต์ยักษ์อินทรชิต” หุ่นยนต์ยักษ์เทคโนโลยีล้ำยุคที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจากงานมหกรรมโลกเวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่กลับมาอีกครั้งเพื่อร่วมถ่ายทอดสารพันความรู้เกี่ยวกับเวิลด์ เอ็กซ์โป ให้แก่งานนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังจะได้รับชมการเข้าร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โปครั้งต่อไปของประเทศไทย ณ เมืองโยซู สาธารณรัฐเกาหลี ในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2012 โยซู เกาหลี นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว “กินรี” หรือ “น้องนารี” มาสคอตที่จะใช้ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 อยุธยา เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ การแสดง “น้องไท โรบอต แดนซ์” การถ่ายภาพสติ๊กเกอร์ร่วมกับ “น้องไท” และเกมตอบคำถามชิงรางวัลต่างๆ มากมาย