คุณช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประจำประเทศไทย บริษัท เซสปรี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “จากการค้นสถิติข้อมูลของจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานในประเทศไทย พบว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นที่น่ากังวล ในฐานะที่เซสปรีกีวี เป็นผู้บริหารจัดการตลาดผลกีวีชั้นนำของโลก ซึ่งถือเป็นสุดยอดผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นอย่างมาก จึงเล็งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนตลอดจนเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้กับผู้บริโภค ให้มีการดูแลรักษาสุขภาพของตนเองอย่างถูกวิธีโดยเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าและเหมาะสมต่อตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน”
“โรคเบาหวาน” เป็นโรคเรื้อรังซึ่งเกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถสร้างอินซูลินได้เพียงพอ หรือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ประสิทธิภาพของอินซูลินลดลง
“อินซูลิน” เป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่พาน้ำตาลกลูโคสผ่านกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ของร่างกาย เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานในการดำเนินชีวิต ซึ่งถ้าร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลินหรืออินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี ร่างกายก็จะไม่สามารถใช้น้ำตาลได้ จนก่อให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และเป็นโรคแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ตา ไต และระบบประสาท ซึ่งเป็นอาการของเบาหวานที่ตามมา
สำหรับการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวาน หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือการควบคุมน้ำหนักตัว และการดูแลอาหารการกิน โดยเฉพาะการรับประทานผักและผลไม้
เซสปรีกีวี ซึ่งเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีดัชนีไขมันและน้ำตาลต่ำ จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญของผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยมีเหตุผลสำคัญหลายประการ ดังนี้
1. กีวีมีค่าดัชนีและไขมัน ตลอดจนแคลอรี่ต่ำ
ค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) เป็นค่าที่บอกให้รู้ว่าคาร์โบไฮเดรตในอาหารมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร อาหารที่มี GI สูง (มากกว่า 70) จะถูกดูดซึมได้เร็วกว่า และเป็นเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูง แต่อาหารที่มี GI ต่ำ (น้อยกว่า 55) จะถูกย่อยช้า จึงทำให้กลูโคสถูกปล่อยเข้าไปในกระแสเลือดอย่างช้าๆ ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะขึ้นช้าไปด้วย เนื่องจากผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่สามารถดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้ การทานอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลและไขมันต่ำจึงถือเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ กีวียังให้ระดับแคลอรีต่ำ การรับประทานกีวีสีเขียว 1 ผล จะให้แคลอรีเพียง 48.5 แคลอรี เท่านั้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคเบาหวานเป็นอย่างยิ่ง ตลอดจนเหมาะกับผู้ที่ต้องการคุมน้ำหนัก หรือมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว
2. กีวีอุดมไปด้วยไฟเบอร์
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์หรือ ใยอาหารสูง เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดเท่านั้น แต่ใยอาหารยังช่วยในกระบวนการเผาผลาญและชะลอการกระจายตัวของกลูโคส ตลอดจนช่วยดูดซึมน้ำตาลอีกด้วย
3. กีวียังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)
กีวีถือเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมยังอุดมไปด้วยวิตามินซีมากกว่าผลไม้ประเภทอื่นๆ ซึ่งวิตามินซียังถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ
โรคเบาหวาน จะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของภาวะ Oxidative Stress ซึ่งภาวะดังกล่าวเป็นภาวะที่มีอนุมูลอิสระมาก จนสารต้านอนุมูลอิสระมีไม่เพียงพอ จนส่งผลให้เกิดการทำลายดีเอ็นเอ โปรตีน ไขมัน และโมเลกุลขนาดเล็กอื่นๆ อีกทั้งผู้ป่วยโรคเบาหวานยังต้องเสี่ยงจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของคอเลสเตอรอล LDL ซึ่งเป็น คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ที่ก่อสารอนุมูลอิสระจนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตลอดจนภาวะไกลเคชั่น ซึ่งเป็นภาวะที่โมเลกุลของกลูโคสเข้าไปจับยึดกับโปรตีนและไขมัน ทำให้โมเลกุลนั้นเสื่อมสภาพ และทำงานต่อไปไม่ได้ เป็นผลให้ ผู้ป่วยเบาหวาน มีอาการเส้นประสาทเสื่อม โรคหัวใจวายเฉียบพลัน ไตวาย เส้นเลือดอุดตัน และตาบอด เป็นต้น
ฉะนั้นการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จะสามารถช่วยป้องกันภาวะการทำลายจากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งกีวีถือเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ถูกรับรองว่ามีประสิทธิภาพดังกล่าว *
4. กีวีจะช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหาร
โรคเบาหวานจะทำให้ระบบการย่อยอาหารทำหน้าที่ผิดปกติ ซึ่งส่งผลให้กระเพาะอาหารเป็นอัมพาต เนื่องจากภาวะเบาหวาน และยังทำให้เกิดอาการอื่นๆ อาทิ คลื่นไส้ อาการท้องเต็ม (Bloating) อาเจียน ความอึดอัดในช่องท้อง ท้องผูก และเกิดความล่าช้าในการส่งถ่ายอาหาร
เซสปรี กรีนกีวี สามารถช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ โดยการช่วยปรับปรุงระบบการย่อยอาหาร ทำให้อาการท้องเต็ม และความอึดอัดในช่องท้องบรรเทาลง** นอกจากนี้กีวียังช่วยในกระบวนการส่งถ่ายอาหาร และระบบขับถ่าย*** พร้อมช่วยบรรเทาอาการความอึดอัดในกระเพาะอาหารและลำไส้
เซสปรีกีวี กีวีคุณภาพเยี่ยมจากนิวซีแลนด์ จึงเป็นอีกทางเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ที่รักสุขภาพทุกท่าน ซึ่งมีจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและห้างค้าปลีก ทั้งนี้สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณค่าสารอาหารของกีวีจากนิวซีแลนด์ ได้ที่ www.zespri.com