วันนี้ (๑๕ ก.ย.๕๔) เวลา ๑๔.๐๐ น. พลตำรวจเอกโกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เข้าตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้บริหารกระทรวงฯ ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม ๑ ชั้น ๓ อาคาร ๖๐ ปี บริเวณสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงานถึงภารกิจกระทรวงฯ ว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในฐานะหน่วยงานหลักที่ดูแลประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้พยายามผลักดันการดำเนินงานในด้านต่างๆ ทั้งในด้านการพัฒนาคน ครอบครัว สังคม และชุมชน โดยร่วมกับทุกภาคส่วนจัดทำยุทธศาสตร์กระทรวง ประจำปี ๒๕๕๕-๒๕๕๙ โดยกำหนดวิสัยทัศน์ “มุ่งสู่สังคมคุณภาพ บนพื้นฐานความรับผิดชอบร่วมกัน” ภายใต้ยุทธศาสตร์ ๔ ประเด็น ได้แก่ ๑. การผลักดันให้เกิดสังคมสวัสดิการ ๒. การพัฒนาสังคมเข้มแข็ง ๓ .การเสริมสร้างพลังทางสังคม ๔. การยกระดับขีดความสามารถการบริหารจัดการด้านการพัฒนาสังคม ซึ่งในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ได้เตรียมขับเคลื่อนโครงการสำคัญตามแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๘ จำนวน ๑๐ โครงการ ได้แก่ โครงการเสริมพลังสตรีเพื่อพัฒนาครอบครัว ชุมชนสังคม และการเมือง โครงการส่งเสริมศักยภาพครอบครัวระดับตำบล (คลินิกครอบครัว) โครงการพัฒนาและขับเคลื่อนระบบสวัสดิการและการคุ้มครองทางสังคม โครงการสร้างคุณภาพเด็กและเยาวชน โครงการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ โครงการต่อต้านการค้ามนุษย์ โครงการพัฒนาความมั่นคงที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมน่าอยู่ โครงการพัฒนาความมั่นคงที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินสำหรับผู้ด้อยโอกาส โครงการสนับสนุนการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ และโครงการจ้างงานคนพิการทั่วประเทศ สำหรับแผนการดำเนินงานสำคัญตามภารกิจ ได้แก่ การผลักดันพ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง การจัดทำดัชนี้ชี้วัดความสุข การจัดตั้งสถาบันการพัฒนาสังคม การสนับสนุนกองทุนสตรี การจัดทำแผนที่ทางสังคม การเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน และการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สังคมอาเซียน
ทั้งนี้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ จะได้เร่งผลักดันให้โครงการต่างๆนี้ ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังมีประเด็นสำคัญที่กำลังพิจารณาขับเคลื่อน ได้แก่ ๑.การจัดดัชนีชี้วัดความสุขของประชาชน ซึ่งมอบหมายให้ปลัดกระทรวงฯ สั่งการไปที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการสำรวจแล้วและให้รวบรวมผลส่งมาที่กระทรวงฯ ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน นี้ และทำการสำรวจต่อไปทุกเดือน โดยจะประกาศตัวอย่างภายในเดือนตุลาคม ๒. ในด้านของการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะมีการดูแลคุ้มครองประชาชนไม่ให้ถูกเอาเปรียบหรือถูกละเมิดสิทธิ จึงขอเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพม. จากเดิมซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่มีหน่วยงานรองรับในต่างจังหวัด จึงทำให้การควบคุมดูแลอาจทำได้ไม่ทั่วถึง ในการนี้ พม.พร้อมจะให้พัฒนาสังคมฯจังหวัด ซึ่งประจำอยู่ทุกจังหวัด ทำหน้าที่ดูแลประสานงานได้โดยตรง ทำให้การดูแลคุ้มครองผู้บริโภคครอบคลุมและทั่วถึงทุกพื้นที่ ๓. ขยายให้มีสำนักงานธนานุเคราะห์ กระจายครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละ ๒ แห่ง เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยประชาชนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ.