“โครงการห้องสมุดของเล่นฯ ที่ซีพีเอฟได้ร่วมมือกับมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ และสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (PDA) ดำเนินการนี้นับเป็นการปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนรู้จักการแบ่งปัน และเป็นการสร้างจิตสาธารณะระหว่างเด็กกับเด็กด้วยกัน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้ ปลูกปัญญา สร้างสรรค์พัฒนาการของเด็กไทยโดยใช้ของเล่นเป็นสื่อ และยังช่วยให้พวกเขาได้ร่วมทำความดีแลกกับการยืมของเล่นเพื่อไปเล่นที่บ้านของตนเองได้ นอกจากนี้ โครงการฯนี้ยังเป็นการสานสัมพันธภาพอันดีระหว่างภาครัฐและหน่วยงานจากภาคเอกชนต่างๆ ที่มาร่วมช่วยเหลือให้เด็กๆ และชุมชนใกล้เคียงให้มีโอกาสได้เข้าถึงของเล่นในรูปแบบต่างๆ รวมถึงพวกเราชาวซีพีเอฟโดยผู้บริหารและพนักงานทุกคน ได้มีโอกาสดำเนินกิจกรรมซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมหลักขององค์กร ในเรื่องการตอบแทนคุณแผ่นดิน และปณิธานการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลัก 3 ประโยชน์ ในการดำเนินธุรกิจคือ ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าของเล่นและอุปกรณ์กีฬาที่เด็กๆ ได้รับไปนั้นจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทั้งด้านอารมณ์ (EQ) และร่างกายของน้องๆ ทุกคนได้เป็นอย่างดี และจากความสำเร็จในการดำเนินโครงการในปีนี้ จึงมีแผนที่จะดำเนินกิจกรรมและขยายเครือข่ายโครงการไปยังโรงเรียนต่างๆ ในชนบทต่อไป” นายปริโสทัต กล่าว
ด้านนายมานิตย์ สิทธิราช รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 กล่าวเสริมว่า โครงการฯ นี้เป็นโครงการที่ดีมากที่จะช่วยให้เด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาสในสถานศึกษาที่ห่างไกล ได้มีโอกาสเล่นของเล่น เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านต่างๆ ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และเชื่อว่าห้องสมุดของเล่นนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้ปลูกปัญญาให้กับเด็กและเยาวชน โดยใช้ของเล่นเป็นสื่อ ขณะเดียวกันก็เกิดการปลูกฝังการรู้จักแบ่งปัน การสร้างเครือข่ายของจิตสาธารณะระหว่างเด็กกับเด็กด้วยกัน ขณะที่อุปกรณ์กีฬาที่เด็กๆ ได้รับก็จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การเริ่มต้นกิจกรรมดีๆ เช่นนี้จึงนับเป็นก้าวย่างที่ดีที่ภาคธุรกิจจะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเยาวชนไทยได้อีกทางหนึ่ง.