- ทองปรับฐานตามสินทรัพย์เสี่ยง
- คาดราคาปรับฐานต่อหากหลุดแนวรับ 1,770-1,775 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาโลหะมีค่า
ราคาทองร่วงลงแรงหลังทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งมาตรการที่ประกาศออกมานั้น ไม่สามารถสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนได้ โดยธนาคารกลางของสหรัฐประกาศตรึงดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันต่อไป พร้อมกับเตรียมใช้เงิน 4 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุ 6-30 ปีภายในสิ้นเดือน มิ.ย. 2012 พร้อมกันกับการขายพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี โดยหวังว่าจะกดดันให้ดอกเบี้ยระยะยาวต่ำลงและสถาบันการเงินที่ถือครองพันธบัตรระยะยาวไปลงทุนช่องทางอื่น และในแถลงการณ์ได้ระบุถึงความเสี่ยงจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจที่ยังอาจเกิดขึ้นได้อีก สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆทั้งตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันจึงมีแรงเทขายกลับออกมามาก เช่นเดียวกับราคาทองคำซึ่งช่วงนี้การเคลื่อนไหวของราคาอยู่ในทิศทางเดียวกับสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะราคาที่ยังค่อนข้างแพงและมีความผันผวนสูง จนตลาดไม่มั่นใจที่จะถือครองทองคำเพื่อชดเชยความเสี่ยง แต่คาดว่ามุมมองในลักษณะนี้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆที่ราคาทองมีความผันผวน หากราคาปรับฐานลงอีกและเริ่มเหวี่ยงตัวแคบลง ตลาดก็จะกลับมามองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง ส่วนมาตรการที่ธนาคารกลางของสหรัฐประกาศออกมานั้น ในด้านหนึ่งเป็นการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ แต่ในอีกด้านหนึ่งเงินทุนที่อาจจะไหลออกจากการถือครองพันธบัตรระยะยาวที่จัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยก็คงจะกลับมาสู่ตลาดทองด้วยเช่นกัน ดังนั้นภาพรวมของมาตรการที่ออกมาก็ยังเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทอง ส่วนการเคลื่อนไหวระยะสั้นของราคาซึ่งเครื่องมือทางเทคนิคของราคาทองคำกลับลงมายืนในระดับที่สะท้อนว่าราคาอาจปรับฐานลงอีก หรือหากดีดตัวกลับก็จะยังขาดความต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันหากหลุดลงไปต่ำกว่าแนวรับที่ 1,770-1,775 ดอลลาร์ ก็จะมีแรงขายตามออกมามาก จนราคาปรับฐานลงสู่แนวรับที่ 1,760 และ 1,750 ดอลลาร์ต่อไป ส่วนการฟื้นตัวกลับที่แนวต้านบริเวณ 1,795 และ 1,810 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะยังมีแรงขายกลับออกมามาก และราคาคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ส่วนราคาโลหะเงินยังมีแนวโน้มปรับฐานลงต่อ หลังมีแรงขายออกมาจากแนวต้านที่ 40.50 ดอลลาร์ หากหลุดแนวรับที่ 39 ดอลลาร์ ยังต้องระวังแรงขายที่จะมีตามออกมา
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนต.ค.54
Close chg. Support Resistance
26,380 +120 26,100/26,000 26,400/26,500
ราคาอ่อนตัวลงจากแนวต้านบริเวณ1,815-1,820 ดอลลาร์ และกลับลงมาเคลื่อนไหวบริเวณแนวรับที่ 1,775-1,780 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าหากราคาดีดตัวขึ้นจากแนวรับนี้ก็คงยังจะมีแรงขายกลับออกมา จนราคาฟื้นตัวขึ้นได้เพียงในช่วงสั้นๆ หรือหากลงไปต่ำกว่าแนวรับนี้ก็จะมีแรงขายกลับออกมามาก ดังนั้นหากถือครองฝั่งขายจากแนวต้านดังกล่าวอาจทยอยปิดสถานะเป็นบางส่วน แล้วรอเปิดสถานะใหม่ในช่วงที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,775 ดอลลาร์ หรือฟื้นตัวกลับเข้าใกล้แนวต้านที่ลดต่ำลงมาอยู่ที่ 1,795-1,800 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 1,815 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านสำหรับเก็งกำไรฝั่งขายของเมื่อวาน เงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องทำให้ราคาในประเทศปรับตัวลดลงน้อยกว่าปกติ
ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนต.ค.54
Close chg. Support Resistance
1,250 +13 1,230/1,220 1,250/1,260
หากราคาดีดตัวกลับยังคงคาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมาจากแนวต้านบริเวณ 40.5 ดอลลาร์ เช่นเดียวกันกับเมื่อวาน และหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่ 39 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวของราคาก็จะมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงอีก ดังนั้นหากราคาปรับฐานลงหลุดแนวรับข้างต้น ยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งขายต่อไป หากมีสถานะขายจากช่วงที่ราคาดีดตัวขึ้นสู่แนวต้านของวานนี้ ควรปิดสถานะลดความเสี่ยงเพราะในช่วงสั้นๆราคาอาจดีดตัวกลับแล้วรอเปิดสถานะใหม่ในช่วงที่ราคาเข้าใกล้แนวต้านที่ 40 ดอลลาร์