นางปราณี สัตยประกอบ รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า “กรุงเทพมหานครมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเป็นเมืองเจ้าภาพและสนับสนุนให้ใช้อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เป็นสนามจัดการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย และชิงแชมป์โลก ในครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกรุงเทพมหานครในการส่งเสริมกิจกรรมทางด้านกีฬาให้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”
นางสมคิด ปิ่นทอง รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายส่งเสริมกีฬา เปิดเผยว่า “เพื่อเป็นการส่งเสริมให้สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ได้มีการพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ และมีผลงานในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง การกีฬาแห่งประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนส ชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 45 และการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสหญิงชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 2 และการแข่งขันฟิตเนสชาย ชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ และยังเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งหนึ่ง ที่สมาคมฯ จะได้สร้างผลงานในระดับนานาชาติ”
นายภัคพงษ์ เกรียงศักดิ์ นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ได้รับมอบหมายจากสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเพาะกายแห่งเอเชีย ครั้งที่ 45 รวมทั้งจากสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลกในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสหญิงชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 2 และการแข่งขันกีฬาฟิตเนสชายชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 2 ที่ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ระหว่างวันที่ 28 กันยายน-8 ตุลาคม 2554 สมาคมฯ ขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมให้การสนับสนุน ให้สามารถจัดการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสในประเทศไทยที่กำลังจะเกิดขึ้นได้สำเร็จ ได้แก่ การกีฬาแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บมจ.สยามสปอร์ตซินดิเคท บริษัท ทรูมูฟ จำกัด บมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร จำกัด (มหาชน) บริษัท โรงงานฟุตบอลไทย สปอร์ตติ้งกู๊ดส์ จำกัด โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ กรุงเทพฯ บริษัท ไทย สปอร์ตส์ ซัพพลีเม้นส์ จำกัด เว็บไซต์ไทยบอดี้ดอทคอม และ บริษัท ด่านสุทธาการพิมพ์ จำกัด”
“ในการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย และชิงแชมป์โลก ครั้งนี้ จะมีประเทศสมาชิกเดินทางมาร่วมแข่งขันทั้งหมด 34 ชาติ อาทิ สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า จีน เกาหลี บรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ คาซัคสถาน ภูฏาน อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เนเธอร์แลนด์ ฮังการี และโรมาเนีย เป็นต้น เพื่อร่วมแข่งขันเพาะกายและฟิตเนส 12 ประเภท จำนวน 38 รุ่น โดยในส่วนของประเทศไทย เราตั้งเป้าว่าจะสามารถคว้าเหรียญทองได้จำนวน 8 เหรียญทอง” นายภัคพงษ์ กล่าวเสริม
ทางด้าน นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส ประธานแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย-การออกกำลังกายและกีฬาเพื่อสุขภาพ สสส. เปิดเผยว่า “กีฬาเพาะกายและฟิตเนสเป็นพื้นฐานของกีฬาทุกชนิดที่ผู้คนสามารถนำไปเป็นแนวทางในการออกกำลังกายและส่งเสริมบุคลิกภาพทางร่างกายให้สวยสง่าได้เป็นอย่างดี ดังนั้นทางแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย-การออกกำลังกายและกีฬาเพื่อสุขภาพ สสส. จึงได้ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสของสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนส แห่งประเทศไทยมาโดยตลอด สสส. เชื่อมั่นว่า การที่สมาคมฯ ได้รับมอบหมายจากสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสโลก และสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย และชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้คนไทยทุกคนหันมาสนใจออกกำลังกายและรักษารูปร่าง เพื่อให้มีสุขภาพดีต่อไป”
ส่วนพันธมิตรด้านสื่อมวลชน นายโอฬาร เชื้อบาง ผู้อำนวยการกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามกีฬา เปิดเผยว่า “ในฐานะพันธมิตรสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ บมจ. สยามสปอร์ตซินดิเคท มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสระดับเอเชีย และระดับโลกในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ ได้ร่วมกันโปรโมทการแข่งขันฯ ผ่านมีเดียของเราทุกแขนง รวมทั้งยังเป็นสื่อกลางประสานงานและขอความร่วมมือสื่อมวลชนสาขาต่างๆ เพื่อร่วมกันโปรโมท การแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสครั้งนี้ ให้เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ สมเกียรติภูมิของประเทศไทย”