1.ให้บริษัทประกันภัยส่งรายงานถึงจำนวนผู้เอาประกันภัยที่มาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนด้านชีวิต และทรัพย์สิน
2. จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านการประกันภัย ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยให้บริการรับแจ้งเหตุ ให้คำปรึกษา รวมถึงประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือของสำนักงาน คปภ. ขั้นตอน และเอกสาร หลักฐานในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนผ่านทางสถานีวิทยุ หอกระจายข่าว รวมถึงอาสาสมัครประกันภัย
3. ดำเนินการสำรวจข้อมูลจากบริษัทประกันภัยในพื้นที่ ถึงผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเสียหาย ทั้งชีวิต และทรัพย์สิน เพื่อติดตาม เร่งรัดให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับ ผู้เอาประกันภัย อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรม
4. ประสานเครือข่าย เช่น สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม ในการแจ้งข้อมูลความเสียหายของผู้ประกอบการที่จัดให้มีการประกันภัย เพื่อสำนักงาน คปภ. จะเข้าไปช่วยเหลือ
5. ประสานสาขาบริษัทประกันภัย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สมาคม
อู่กลางการประกันภัย และสถาบันการศึกษา เพื่อให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำ การตรวจสภาพรถที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วม การให้บริการรถลาก และซ่อมแซมรถยนต์ บ้านที่อยู่อาศัย รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้การเกษตร
6. ประสานกรมการขนส่งจังหวัดเพื่อเตรียมการตรวจสภาพรถ ที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งจัดทำข้อมูลจำนวนรถที่จดทะเบียนแต่ละประเภท
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. ได้ร่วมกับบริษัทประกันภัย หน่วยงานราชการ บริจาคเครื่องอุปโภค/บริโภคให้กับผู้ประสบภัยแล้ว ทั้งนี้ ภายหลังน้ำลดคาดว่าจะมีผู้เอาประกันภัยมาแจ้งความเสียหายจำนวนมาก จึงขอฝากเตือน ประชาชนผู้เอาประกันภัยให้รีบแจ้งความเสียหายด้านการประกันภัยแก่บริษัททันทีภายหลังน้ำลด เพื่อสำนักงาน คปภ. จะเร่งประสานบริษัทพิจารณาดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ทั้งนี้ หากเอกสารการทำประกันภัย หรือกรมธรรม์ประกันภัยสูญหายขณะน้ำท่วม ขอให้ประสานสำนักงาน คปภ. จังหวัด ได้ทันที เนื่องจาก สำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง มีฐานข้อมูลกลางของผู้เอาประกันภัยทั่วประเทศ ซึ่งพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัย ต่อไป หากมีข้อสงสัยสามารถถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186
ฝ่ายสื่อสารองค์กร โทร. 0-2513-1681
ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านการประกันภัยโดยการประสานกับบริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สมาคมอู่กลางการประกันภัย และวิทยาลัยอาชีวศึกษา รวมทั้งประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือของสำนักงาน คปภ. ผ่านทางสถานีวิทยุ หอกระจายข่าว อาสาสมัครประกันภัย ในการบริการ รับแจ้งเหตุ ให้คำปรึกษาด้านการประกันภัย และการให้คำแนะนำการดูแลรถภายหลังน้ำลด ทั้งนี้ หากผู้เอาประกันภัยรายใดยังไม่ได้แจ้งความเสียหายของชีวิตและทรัพย์สินจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้รีบแจ้งบริษัทประกันภัยโดยทันที เพื่อสำนักงาน คปภ. จะได้เร่งประสานให้บริษัทประกันภัยสำรวจความเสียหายและจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรมแก่ผู้ประสบภัยต่อไป
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยครั้งรวมทั้งการขยายพื้นที่และทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งประชาชนไม่อาจหลีกเลียงความเสียหายของชีวิตและทรัพย์สินได้ แต่ประชาชนสามารถลดความเสี่ยงภัยจากความเสียหายของชีวิตและทรัพย์สินได้ด้วยการประกันภัย ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ประชาชนซื้อประกันภัยเพื่อรองรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยแบบใหม่ ประชาชนสามารถซื้อเพิ่มเติมจากการประกันอัคคีภัยที่มีอยู่แล้ว ซึ่งให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมอีก 5 ภัย ได้แก่ ภัยจากน้ำท่วม ลมพายุ ลูกเห็บ แผ่นดินไหว และการก่อการร้าย เพียงเสียค่าเบี้ยประกัน 300 บาท ให้ความคุ้มครองชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามมูลค่าความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกิน 50,000.- บาทต่อแต่ละภัย และตลอดระยะเวลาประกันภัยจะไม่เกิน 100,000.- บาท เพื่อแบ่งเบาภาระความเสียหายของชีวิตและทรัยพ์สินที่เกิดจากภัยธรรมชาติเพิ่มขึ้น
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วยประกันภัย 1186