ดร.ศุภกร สุนทรกิจ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เกียรตินาคิน จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายดอกเบี้ยขาขึ้นของธนาคารแห่งประเทศไทยใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว โดยในปีนี้จะมีการประชุมอีก 2 ครั้งคือในเดือนตุลาคมและพฤษจิกายน โดย KKFund มองว่าธปท. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนตุลาคม และอาจปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน หรือไตรมาส 1 ปี 2012 ไปอยู่ที่ 3.75%
KKFund จึงเอาใจนักลงทุนที่กำลังรอความแน่นอนของอัตราดอกเบี้ย หรือกำลังมองหาช่องทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก พร้อมสร้างความคุ้นเคยกับกองทุนที่ลงทุนในลักษณะของการคุ้มครองเงินต้นแทนการฝากเงิน โดยนำเสนอขายกองทุนเปิดเคเค สะสมทรัพย์คุ้มครองเงินต้น 3/2 (KK SP3/2) ระยะเวลาโครงการ 3 เดือน และกองทุนเปิดเคเค ตราสารหนี้ สะสมทรัพย์คุ้มครองเงินต้น 1 (KK SP1) ระยะเวลาโครงการ 1 เดือน โดยทั้ง 2 กองทุนเน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐ 100% ซึ่งไม่มีความผันผวนด้านราคา ไม่มีความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก โดยประมาณการโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.30% ต่อปีสำหรับ KK SP3/2 และ 3.1% ต่อปีสำหรับ KK SP1
ดร.ศุภกร ยังกล่าวเสริมอีกว่า ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดทุนทั่วโลกมีความผันผวนอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลให้นักลงทุนหลายท่านเริ่มมองหาการลงทุนในรูปแบบที่ปราศจากความเสี่ยง ทาง KKFund จึงเห็นว่ากองทุนดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนที่เหมาะสมในช่วงนี้
*ตราสารที่ลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด
- กองทุนรวมคุ้มครองเงินต้นเป็นเพียงชื่อเรียกประเภทของกองทุนรวมที่จัดนโยบายการลงทุนเพื่อให้เงินต้นของผู้ถือหน่วยลงทุนมีความเสี่ยงต่ำ โดยกองทุนรวมดังกล่าวมิได้รับประกันเงินลงทุนหรือผลตอบแทนจากการลงทุนแต่อย่างใด
- โปรดศึกษารายละเอียดในหนังสือชี้ชวน โดยผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.เกียรตินาคิน จำกัด
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน