“COMMON ROOM” คว้ารางวัลชนะเลิศ ‘ไอเดียแผนธุรกิจเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ’ ในโครงการ Knowledge No Limit ! บริษัท เรียนรู้ไร้ขีด จำกัด

อังคาร ๒๗ กันยายน ๒๐๑๑ ๑๔:๑๒
ปัจจุบันการทำธุรกิจเริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำธุรกิจเพื่อสังคมมากขึ้น ดังนั้น ผู้ที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจในยุคใหม่จึงต้องปรับตัวและพัฒนาทักษะการทำธุรกิจภายใต้แนวคิด Social Enterprise หรือ SE สำนักงานอุทยานเรียนรู้ TK park , นิตยสาร a day , บริษัท change fusion , มูลนิธิ อโชก้า และ บริษัท Open Dream จึงได้ร่วมกันจัดโครงการ Knowledge No Limit! บริษัท เรียนรู้ไร้ขีด จำกัด ขึ้น เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการหน้าใหม่ไฟแรงที่เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 18 — 25 ปี ส่งไอเดียแผนธุรกิจเพื่อสังคมจากแนวคิด Social Enterprise หรือ SE แผนธุรกิจเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้โดยไม่จำกัดรูปแบบ ภายใต้โจทย์การตั้งชื่อธุรกิจ แรงบันดาลใจของธุรกิจ ลักษณะและรูปแบบการดำเนินการธุรกิจ งบประมาณ และธุรกิจดังกล่าวก่อให้เกิดการเรียนรู้ในสังคมไทยได้อย่างไร

หลังเปิดรับสมัครตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีเยาวชนสนใจส่งไอเดียแผนธุรกิจเข้าร่วมกว่า 20 ทีม และคณะกรรมการได้คัดเลือกจนเหลือ 10 ทีมสุดท้าย เพื่อชิงทุนการศึกษาพร้อมเงินทุนตั้งต้นรวมทั้งสิ้น 180,000 บาท ล่าสุด ได้มีการประกาศผลทีมผู้ชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 และอันดับ 2 รวมถึงรางวัลไอเดียโดนๆ อีก 4 รางวัลขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 17 ก.ย. 2554 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 8 อุทยานการเรียนรู้ TK park

โดยผู้ชนะเลิศ ‘ไอเดียแผนธุรกิจเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ’ ในโครงการ Knowledge No Limit ! บริษัท เรียนรู้ไร้ขีด จำกัด เป็นผลงานของ “ ทีมCOMMON ROOM” ด้วยรูปแบบกิจการภายใต้แนวคิด “สังคมออนไลน์แลกเปลี่ยนกันอ่านผ่านทางเว็บไซต์” โดยนอกจากจะได้เงินทุนตั้งต้นกิจการ 100,000 บาทแล้ว ยังได้รับทุนการศึกษา 30,000 บาท จาก TK park และเป็นสมาชิกของนิตยสาร a day ฟรี 1 ปี

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เป็นผลงานของ “ ทีมEdu-Deo” ซึ่งเป็นการนำเสนอไอเดียแผนธุรกิจในรูปแบบของเว็บไซต์สอนหนังสือ www.edu-deo.com ภายใต้แนวคิด“ติวเตอร์ออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ฟรีๆ!!” และรองชนะเลิศอันดับ 2 เป็นผลงานที่ชื่อว่านิตยสารตัวใหญ่ ของ “ทีมนิตยสารตัวใหญ่ ” ซึ่งเป็นนิตยสารไทยที่จะมาเอาใจเหล่าบรรดาผู้สูงอายุ ภายใต้แนวคิด“อ่านแบบสุขใจ ไม่ต้องใส่แว่นขยาย” โดยทั้งสองทีมจะได้รับทุนการศึกษา 20,000 บาท และ 10,000 บาทตามลำดับ สำหรับรางวัลไอเดียโดนๆ มีทั้งสิ้น 4 รางวัล ได้แก่ ทีม SiS home , ฝรั่งคาเฟ่ , อยากรู้ และ หิ้วหนังฉาย โดยจะได้รับทุนศึกษาทีมละ 5,000 บาท

ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) และผู้อำนวยสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ กล่าวว่า “ โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการใหญ่ที่เรียกว่า โครงการ TK แจ้งเกิดที่มีด้วยกัน 5 สาขา ได้แก่ งานเขียน หรือวรรณกรรม , ภาพยนตร์ , ไอที , TK Band และการตลาด ซึ่งเป็นการบ่มเพาะเยาวชนเพื่อที่จะมุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพ และมุ่งเสริมทักษะในด้านต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย ถึงระดับอุดมศึกษา จนกระทั่งผู้ประกอบการหน้าใหม่ และต้องการให้เยาวชนได้รับ

ประสบการณ์จากวิทยากรมืออาชีพ พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนใหม่ๆ และพร้อมที่จะทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไปในอนาคต”

ด้านนายช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นิตยสาร a day กล่าวเสริมว่า “เมื่อก่อนเราจะได้ยินว่า ทำอย่างไรจะจัดการทรัพยากรให้ได้กำไรสูงสุด แต่วันนี้แนวคิดดังกล่าวเริ่มเปลี่ยนไป จะได้ยินใหม่ว่า เราจะจัดการทรัพยากรให้ได้ความสุขและแบ่งปันให้สังคมสูงสุดได้อย่างไร ... วันนี้ น้องๆ จะถือเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่จะเข้าใจและได้เห็นการเปลี่ยนผ่านของสังคมในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้น้องๆอยู่ในโลกและสังคมใหม่อย่างรู้เท่าทัน พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องให้น้องๆ ซึ่งเป็นเยาวชนในวันนี้ ร่วมกันเป็นโซ่ข้อเล็กๆ ที่จะร่วมกันดึงสังคมให้เป็นสังคมที่มีการแบ่งปันเพื่อยกระดับสังคมไนให้ดีขึ้น ”

นายเฉลิมกรณ์ ทรัพย์เพริศพราย ตัวแทนทีม common room กล่าวถึงความโดดเด่นของแผนธุรกิจที่นำมาซึ่งชัยชนะในครั้งนี้ว่า ด้วยรูปแบบกิจการที่เป็นสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันหนังสือ โดย common room จะเป็น Community ใหม่ของคนรักการอ่าน เพราะจะเป็นแหล่งที่รวบรวมสำนักพิมพ์ นักอ่านหน้าใหม่และนักเขียนสุดเจ๋งมารวมตัวกัน เพื่อแบ่งปันหนังสือ เช่น หนังสือที่มีอยู่แล้วตามบ้านนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้อ่าน แทนการปล่อยทิ้งไว้ให้ปลวกกัดกิน เป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า โดยการวางระบบรากฐานการแบ่งปันหนังสือ การจัดเก็บและบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบระเบียบผ่านช่องทางเว็บไซต์ และมือถือที่กำลังขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรายได้หลักของ common room นั้น นายเฉลิมกรณ์ ชี้แจ้งว่า จะมาจากการตอบรับการเป็นสมาชิก และจากสำนักพิมพ์ที่ได้ช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ๆ รวมถึงเม็ดเงินจากค่าโฆษณา อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่สุดของไอเดียแผนธุรกิจของทีม common room ที่มีสมาชิกร่วมกันอยู่ด้วยกัน 4 คน เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนต่างสถาบัน ทั้งจากมหาวิทยาลัยหาการค้าไทย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ได้หวังรายได้สูง หรือกำไรเยอะ แต่อยากเห็นตัวเลขยอดคนไทย รักการอ่านเพิ่มมากขึ้นเป็นพอ!!

ขณะที่นางสาวนวลแพร่ สง่างาม หนึ่งในทีมนิตยสารตัวใหญ่ จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวถึงความรู้ว่าหลังได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ว่า “ รู้สึกดีใจที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ และได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากเดิมที่เราทำงานกันอยู่ทีมเดียวไม่มีโอกาสได้มองเห็นถึงมุมมองของทีมอื่นๆ ว่าเขาคิดอย่างไร การที่เราได้เห็นงานของคนอื่น ทำให้เราสามารถนำกลับมาพัฒนางานของเราเองได้

หลังจากได้รับการบ่มเพาะที่วิกหัวหิน ทำให้ได้รับความรู้และเกิดความชัดเจนในการทำธุรกิจมากขึ้น จึงได้นำความรู้ที่ได้รับมาปรับแผนธุรกิจที่เขียนไว้เดิมที่ต้องการผลิตเพื่อจำหน่าย มาเป็นรูปแบบของนิตยสารแจกหรือ free copy ซึ่งเป็นกระแสที่กำลังมาแรง จะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เร็วและดีกว่าการวางขาย โดยหลังจากนี้จะเตรียมเปิดตัวนิตยสารตัวใหญ่ภายในเดือนพ.ย.นี้ ที่สวนลุมพินี เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากสังคม เพราะเนื้อหาที่มุ่งนำเสนอเกี่ยวกับผู้สูงอายุ และความตั้งใจที่จะเป็นสื่อยุคใหม่ที่สร้างกำไรตอบแทนสังคม ด้วยการนำรายได้ส่วนหนึ่งไปจัดซื้อแว่นตาเพื่อบริจาคให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย จะเห็นว่า “นิตยสารตัวใหญ่ ไม่ใช่แค่ ฟร้อนท์ใหญ่ ไซส์หนังสือใหญ่ แต่ใจของพวกเขาก็ใหญ่ไม่แพ้กัน”

ด้านนายวรุตน์ เก่งกิตติภัทร ตัวแทนทีม Edu-Deo กล่าวด้วยว่า เว็บไซต์สอนหนังสือที่จัดทำขึ้นนี้ ทำขึ้นด้วยใจรักเป็นทุนเดิม และได้ทำมาก่อนหน้าแล้ว แต่รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นว่าสิ่งที่เรา

ทำนั้น มาถูกทางแล้ว หลังจากนี้จะเริ่มเดินหน้าต่อไป โดยจะมีการพัฒนาโปรแกรมการสอนของวิชาอื่นๆ เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากวิชาวิทยาศาสตร์ที่เปิดสอนอยู่เท่านั้น

สมาชิกของทีม Edu-Deo เป็นการรวมกลุ่มกันของเพื่อนชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีแนวความคิดเหมือนกันว่า ต้องการกระจายความรู้สู่น้องๆ ที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงโรงเรียนกวดวิชาราคาแพง บวกกับมีใจรักในการสอนหนังสือ และความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อัดแน่น จึงได้รวมตัวกันสร้างติวเตอร์ออนไลน์ขุนทรัพย์ทางปัญญาให้กับน้องๆ ระดับชั้นมัธยมปลายสายวิทย์ ผ่านเว็บไซต์ที่เปิดสอนผ่านระบบ Steaming Video

นอกจากนี้นายวรุตน์ ยังกล่าวอีกว่า “ ด้วยค่านิยมของคนไทยส่วนใหญ่มักมองว่า คนเก่งจะต้องเป็นหมอหรือวิศวเท่านั้น ส่วนคนที่เข้าเรียนคณะวิทยาศาสตร์เพราะไปสอบที่ไหนไม่ติดนั้น ความคิดเช่นนี้เองที่ทำให้ประเทศไทยยังไม่ก้าวหน้า เพราะความจริงแล้วหากไม่มีวิทยาศาสตร์ ก็คงไม่มีหมอ เพราะทุกวันนี้โลกมีความก้าวหน้าและทันสมัยมากขึ้น ด้วยวิทยาศาสตร์ จึงเป็นที่มาของไอเดียแผนธุรกิจดังกล่าว”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ