คปภ. แจงการกำหนดอัตราเบี้ยประกันชีวิต ใช้หลักสากลเหมือนกันทุกประเทศ

พฤหัส ๒๙ กันยายน ๒๐๑๑ ๑๒:๐๐
นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สำนักงาน คปภ. ได้ปรับใช้อัตรามรณะไทยปี 2551 แยกเพศ แทนอัตรามรณะไทยปี 2540 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม และสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นผลทำให้เบี้ยประกันชีวิตถูกลงถึงร้อยละ 20 ประกอบกับสำนักงาน คปภ. มีมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมให้ประชาชนทั่วประเทศเห็นความสำคัญของการทำประกันภัย การพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยสำหรับรายย่อย รวมถึงการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ และสามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกระดับ คาดว่าสัดส่วนของการทำประกันชีวิตของประชาชนในอนาคตจะสูงขึ้น ทั้งนี้ จากสถิติ ณ เดือนกรกฎาคม 2554 ธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงทั้งสิ้น 180,711 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงร้อยละ 12.51

การกำหนดอัตราเบี้ยประกันชีวิตโดยทั่วเป็นไปตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย และสอดคล้องกับมาตรฐานการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย ที่กำหนดโดยสมาคมผู้กำกับดูแลธุรกิจประกันภัยนานาชาติ (IAIS) โดยปัจจัยในการคำนวณขึ้นอยู่กับอัตรามรณะ อัตราดอกเบี้ย แบบประกันชีวิต พฤติกรรมความเสี่ยง และสุขภาพของแต่ละคน ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อมูลทางสถิติของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ บริษัทประกันชีวิต ยังต้องคำนึงภาวะเศรษฐกิจ สังคม สภาพสิ่งแวดล้อม และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีประกอบกับค่าใช้จ่ายต่างๆ และช่องทางการจำหน่าย ทั้งนี้ ประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีความก้าวหน้าทางการแพทย์ สภาพสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการมีชีวิตที่ดีและยืนยาว ทำให้มีอัตราความเสี่ยงและการเสียชีวิตที่ต่ำกว่า ส่งผลให้ประเทศนั้นๆ มีเบี้ยประกันชีวิตที่ถูกลง ดังนั้น การเปรียบเทียบอัตราเบี้ยประกันชีวิตควรเปรียบเทียบในกลุ่มประเทศที่มีสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และสังคมที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบอัตราเบี้ยประกันชีวิตในกลุ่มบริษัทเครือเดียวกันในภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซียและอินโดนีเซีย พบว่าประเทศไทยจะมีอัตราเบี้ยประกันชีวิตที่ถูกกว่า

ประเทศ เบี้ยประกันภัยรวม15 ปี /ทุนประกันชีวิต 10 ล้านบาท

ไทย 541,500.- บาท

มาเลเซีย 624,000.- บาท

อินโดนีเซีย 681,000.- บาท

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่าอยากให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการประกันภัย และซื้อประกันภัยเพิ่มมากขึ้น เพราะหากมีจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยมากขึ้น จะทำให้อัตราเบี้ยประกันภัยถูกลง ทั้งนี้ ประชาชนควรเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยกับตัวแทน/นายหน้า ที่มีใบอนุญาตจากนายทะเบียนเท่านั้น ศึกษารายละเอียดและเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยให้เหมาะสมกับความต้องการ และความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยด้วย หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186

ฝ่ายสื่อสารองค์กร

โทร. 02-5131680 02-5131769

โทรสาร. 02-5131437

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ