นายสุกิจ ตรัยวนพงศ์ ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 25 กล่าวสรุปภาพรวมของการจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน บรรยายกาศภายในงาน จำนวนผู้เข้าชมงานลดลงประมาณ 18% ขณะที่ยอดขายจากตอบแบบสอบถามของผู้ร่วมออกบูธใกล้เคียงกัน คือ ประมาณ 1 พันล้านบาท ไม่นับยอดขายหลังงานอีกประมาณ 2 พันล้านบาท ส่วนยอดการขอสินเชื่อภายในงานลดลงประมาณ 20 % โดยจากการวิเคราะห์ของคณะกรรมการจัดงานฯ น่าจะเป็นผลมาจากช่วงระยะเวลาในการจัดงานครั้งนี้ มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ อาทิ ความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐทางด้านภาษีและดอกเบี้ยสำหรับบ้านหลังแรก การเกิดอุทกภัยและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ส่งผลทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมอย่างหนักหลายจังหวัดเกือบทุกภาคของประเทศไทย และเกิดขึ้นยาวนานกว่าทุกครั้ง ภาวะวิกฤตการทางเงินของโลกในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและตราสารหนี้ทั่วโลก โดยเฉพาะหุ้นในประเทศไทยตกลงอย่างมาก ทั้งนี้ เชื่อได้ว่าหากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นมีหนทางในการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมและมีความชัดเจน ก็จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่กำลังตัดสินซื้อบ้านมากยิ่งขึ้น คาดว่าหลังจากจบงานมหกรรมครั้งที่ 25 ภายในระยะเวลาหนึ่งถึงสองเดือน ตลาดการซื้อขายจะกลับมาคึกคัก ทำให้แต่ละโครงการสามารถสร้างยอดขายตามเป้าหมาย รวมยอดจองภายในงานและหลังจากจบงานไม่น่าจะน้อยกว่า 2 — 3 พันล้านบาท
ภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 25 ได้มีการรวบรวมกว่า 150 บริษัท รวมแล้วกว่า 600 โครงการมาไว้ในงาน นอกจากนี้ สถาบันการเงินที่ มาร่วมออกบูธมากกว่า 10 สถาบัน ต่างก็แข่งขันกันจัดแคมเปญด้านสินเชื่อคงที่อัตราดอกเบี้ยในอัตราพิเศษสุด ความหลากหลายของสินค้าที่นำมาแสดงยังเต็มไปด้วยคุณภาพ โดยผู้ประกอบการได้นำโครงการประเภทต่างๆ มาแสดงภายในงาน ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 51.0% คอนโดมิเนียม 25.2% ทาวน์เฮาส์ 14.4% และที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ อีกมากมาย โดยมีระดับราคาอยู่ที่ 1-2 ล้านบาท 51.2% 2-3 ล้านบาท 8.6% 3-5 ล้านบาท 10.5% 5-8 ล้านบาท 2.8% 15 ล้านบาทขึ้นไป 0.7% สำหรับทำเลที่ต้องการส่วนใหญ่อยู่ในทำเลที่ตั้งทั่วทุกเขตของกรุงเทพและปริมณฑล จึงนับเป็นโอกาสที่ผู้บริโภคจะสามารถเลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด
สำหรับยอดการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยภายในงาน ผลจากการสำรวจจากสถาบันการเงินต่างๆ มียอดการขอสินเชื่อรวมประมาณกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
ด้านผลสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้ลงทะเบียนเข้าชมงาน จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคมีความต้องซื้อที่อยู่อาศัย ประเภทบ้านเดี่ยว 32.0% คอนโดมิเนียม 22.5% ทาวน์เฮ้าส์ 19.8% ด้านงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทเรียงลำดับ ตามความต้องการ คือ ความต้องการที่อยู่อาศัย ระดับราคา 1-2 ล้านบาท 39.5% 2-3 ล้านบาท 25.9% ต่ำกว่า 1 ล้านบาท 10.1% 3-4 ล้านบาท 13.2% และ 4-6 ล้านบาท 8.1% โดยตัวเลขจากผลสำรวจนี้สามารถบ่งชี้ได้ว่า โครงการแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ขณะที่คอนโดมิเนียมความต้องการลดลงจากปีที่แล้ว ในสัดส่วนร้อยละ 22.5 ขณะนี้ ก็ยังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ว่าตัวเลขที่ลดลงมาจากเรื่องใด สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งต่อไป ครั้งที่ 26 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม พ.ศ. 2555 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์