นางสาวกานต์ณพิชญ์ กุณามา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด “ยศยาคลินิก” กล่าวว่า “ยศยาคลินิก” ให้บริการทั้งในด้านการดูแลผิวพรรณและความงาม และการทำศัลยกรรมตกแต่ง ด้วยงบลงทุนกว่า 30 ล้านบาท เพิ่งจะเปิดสาขาแรกที่ถนนรัชดาภิเษกนำร่องมาเกือบ 2 เดือนแล้ว โดยเรามั่นใจว่าศักยภาพของทำเลย่านรัชดาภิเษก เป็นย่านที่มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก เนื่องจากมีอาคารสำนักงาน บริษัท ห้างร้าน ตลอดจนสถานศึกษาและสถานบันเทิงจำนวนมาก สำหรับจุดขายสำคัญที่ยศยาคลินิกถือเป็นไม้เด็ดในการครองใจลูกค้าคือการมีศัลยแพทย์ตกแต่งที่จบสาขานี้มาโดยตรง ทำให้มีองค์ความรู้และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แตกต่างจากคลินิกทั่วไปที่มักจะเป็นแพทย์ศัลยกรรม แต่อาจจะไม่ได้เรียนมาทางด้านศัลยแพทย์ตกแต่งโดยตรง เพราะในแต่ละปีไทยสามารถผลิตแพทย์ที่จบสาขาศัลยแพทย์ตกแต่งเพียงจำนวนประมาณ 12-15 คน ทำให้ปัจจุบันมีแพทย์กลุ่มนี้เพียง 250 — 300 คน ซึ่งแน่นอนว่าไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดศัลยกรรมที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
“เรามองว่าตลาดศัลยกรรมยังคงเติบโตต่อเนื่อง ในปีนี้คาดว่ามูลค่ารวมของปีนี้น่าจะอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท สังคมไทยและคนไทยเปิดกว้างและยอมรับการศัลยกรรมมากขึ้น อาจจะด้วยอิทธิพลของคนดัง ดารา-นักร้อง-นักแสดงที่มักจะสวยด้วยแพทย์ทั้งสิ้น ประกอบกับกระแสของเค-ป๊อปและวัฒนธรรมบันเทิงที่มาจากประเทศเกาหลี เป็นตัวกระตุ้นให้สังคมไทยหันมานิยมทำศัลยกรรมมากขึ้น โดยแนวโน้มของผู้ที่เริ่มทำศัลยกรรมมีอายุน้อยลง จากเดิม 18 ปีขึ้นไป มาเป็นตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป สำหรับเทรนด์ศัลยกรรมเกาหลีที่มาแรงนี้ ทางยศยาคลินิกก็ถือเป็นจุดขายสำคัญอีกอย่างเพราะได้ส่งศัลยแพทย์ตกแต่งไปเรียนรู้และอบรมเพิ่มเติมกับ ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ประเทศเกาหลี เรานำเข้าวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆทางด้านศัลยกรรมมาจากเกาหลี เพราะต้องยอมรับว่านวัตกรรมและเครื่องไม้เครื่องมือของเกาหลีมีคุณภาพ บางอย่างมีต้นทุนสูงกว่าที่นำเข้าจากยุโรปและอเมริกา แต่สามารถเข้ากับคนเอเชียได้ดีกว่า เช่นซิลิโคนสำหรับทำจมูก เป็นต้น”
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดคลินิกยศยา เปิดเผยว่า เพื่อให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่เร็วขึ้น ทางคลินิกได้มีการกำหนดราคาการให้บริการที่ต่ำกว่าคู่แข่งประมาณ 50% เมื่อเทียบกับค่าบริการทำศัลยกรรมประเภทเดียวกันของคู่แข่ง เช่น การทำจมูก เทคนิคเกาหลี มีราคาที่ 30,000 บาท ขณะที่คู่แข่งที่จับลูกค้าระดับบีบวกถึงมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 55,000 บาท
“เราเน้นทำราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่งอย่างน้อยก็เป็นเวลาประมาณ 3 ปี เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์และแนะนำฝีมือแพทย์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างก่อน ผ่านการบอกต่อของลูกค้าเป็นหลัก เพราะปัจจัยแรกที่จะทำให้เกิดการตัดสินใจทำศัลยกรรม คือ ความเชื่อมั่นในตัวแพทย์ ที่มาจากการบอกต่อของคนใกล้ชิด โดย ราคา และ สถานที่เป็นปัจจัยรองลงมาตามลำดับ โดยคลินิกได้ใช้งบประมาณการตลาดใน 5 เดือนหลังของปีนี้ 5 ล้านบาทในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางหลักๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โซเชียลเน็ตเวิร์ค เรามั่นใจว่าในช่วง 5 เดือนสุดท้ายปีนี้เราจะสามารถเก็บยอดขายแบบสบายๆที่ 15 ล้านบาท แต่จะขยายตัวแบบเต็มที่แบบก้าวกระโดด 100% ในปี 2555 และในอนาคต ภายใน1-2 ปีนี้ คลินิกก็มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 1-2 แห่ง โดยเล็งพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นสาขาที่เน้นการทำทรีตเมนต์ต่างๆ พร้อมกับเป็นสาขาหน้าร้านที่จะเรียกลูกค้าทำศัลยกรรมกลุ่มใหม่ให้มาใช้บริการที่สาขาแรก คาดว่าจะใช้งบอีก 5-10 ล้านต่อสาขา
ติดต่อ:ยศยาคลินิก โทร. 02-6938693