มร.เออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา โปรเจคเตอร์ของเอปสันได้รับการยอมรับว่าเป็นอิมเมจโซลูชั่นที่ดีที่สุดในโลก ในเมืองไทยเอง เอปสันโปรเจคเตอร์ก็ยังคงความเป็นเจ้าตลาดอยู่ ดังนั้นภารกิจสำคัญของเอปสันในเวลานี้ ก็คือการรักษาระดับความเป็นแบรนด์ผู้นำที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมทุกการใช้งานมากที่สุดในตลาด ในครั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกันทีเดียวถึง 21 รุ่น ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราสามารถขยายฐานตลาดให้กว้างขึ้น เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ลูกค้าเองก็จะได้ทางเลือกเพิ่มขึ้น สามารถเลือกโปรเจคเตอร์คุณภาพสูงของ เอปสันที่เหมาะกับงบประมาณ การใช้งานในองค์กร หรือไลฟ์สไตล์ของตัวเอง”
“ภาพรวมของตลาดโปรเจคเตอร์ในขณะนี้ ยังเรียกได้ว่ามีทิศทางการเติบโตที่ดี กลุ่มลูกค้าธุรกิจหรือหน่วยงานราชการเริ่มมีการลงทุนซื้อเครื่องใหม่หรืออัพเกรดเครื่องที่ใช้อยู่ ขณะเดียวกันสถาบันศึกษาจำนวนมากก็เริ่มนำสื่อมัลติมีเดียมาประกอบการเรียนการสอนมากขึ้น รวมถึงเปิดรับระบบการเรียนการสอนทางไกล ในส่วนของตลาดโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์นั้น ก็ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เอปสันเองก็มีสินค้าใหม่ๆ หลายรุ่นเพิ่มเข้าไปในตลาด เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้ตามบ้านที่กำลังเติบโตขึ้น” มร.คาโตะ กล่าว
ด้านนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การออกนวัตกรรมใหม่ๆ และสินค้าหลายซีรี่ส์พร้อมกันในช่วงเวลานี้ เป็นการตอบรับสัญญาณการกลับมาลงทุนเพิ่มขึ้นของหน่วยงานต่างๆ โดยจะเน้นที่สินค้าระดับกลางและบนเป็นหลัก มีเครื่องในกลุ่มโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เข้ามาช่วยเพิ่มฐานลูกค้า
“ในช่วงที่ผ่านมา เอปสันได้ดำเนินกลยุทธ์ด้านการตลาดผ่านช่องทางการขาย ส่งผลให้ตลาดมีการขยายตัว สินค้าหลายกลุ่มมีราคาที่ดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้สามารถเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ไปใช้ในธุรกิจ หรือในที่พักอาศัยของตัวเองได้มากยิ่งขึ้น ส่วนผลดำเนินงานของผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายจำนวนเครื่องของเอปสันเพิ่มขึ้นกว่า 100% หรือเติบโตเป็นเท่าตัว คิดเป็นมูลค่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีแล้ว เติบโตขึ้นกว่า 40% ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง”
สำหรับกลยุทธ์ในการรุกตลาด ช่วงครึ่งปีหลังของเอปสัน นายยรรยง เปิดเผยว่า ได้กำหนดออกเป็น 4 แนวทางหลัก ประกอบด้วย การขยายกลุ่มสินค้าให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้ได้กว้างยิ่งขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการเปิดตัวสินค้าพร้อมกัน 21 รุ่น ในครั้งนี้ รวมถึงการเจาะเข้าตลาดใหม่ๆ ด้วยเครื่องรุ่น 3D โฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และ Apple Device Dock Projector
“ต่อมาคือการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและให้การสนับสนุนลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม ทั้งยังมีการสร้างกลุ่ม “Epson VI Champion” ทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์เป็นอย่างดี ที่จะมาให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับลูกค้าในธุรกิจประเภทต่างๆ”
“กลยุทธ์ที่ 3 ได้แก่ การยกระดับการให้บริการหลังการขาย ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งที่เหนือคู่แข่งของเอปสัน บริษัทฯ จะยังคงเน้นในเรื่องของความรวดเร็วและคุณภาพในการให้บริการ โดยทีมบุคลากรจะได้รับการฝึกฝน และเพิ่มทักษะในการซ่อมบำรุงและดูแลอุปกรณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จะมีการขยายเครือข่ายศูนย์บริการให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ในประเทศมากยิ่งขึ้น”
“สุดท้ายคือการเพิ่มระดับการรับรู้ในตลาดถึงเทคโนโลยีเอปสัน 3LCD บริษัทฯ จะยังเดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับ 3LCD ต่อกลุ่มเป้าหมายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 3LCD คือหัวใจแห่งความสำเร็จในการเป็นอันดับหนึ่งตลอด 10 ปีในโลกโปรเจคเตอร์ของเอปสัน เป็นเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธ์ของบริษัทฯ ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้น จนได้รับการยอมรับจากตลาดทั่วโลกว่ามีคุณภาพสูงกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ เพราะคุณภาพการแสดงภาพสีที่ดี ชัดเจน และเหมือนจริงกว่า ทั้งยังช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานได้มากถึง 25% และไม่เกิดปัญหาสีเหลื่อมของภาพ”
นายยรรยง กล่าวต่อว่า “สินค้าทั้ง 21 รุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มได้แก่ Smart, Evolution, Short Throw Lens, Home Entertainment และ Apple Device Dock Projector ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่ตลาดองค์กร ทั้ง
รัฐและเอกชน ไปจนถึงกลุ่มเอเจนซี่ ที่ใช้สำหรับงานพรีเซนต์ และสถาบันศึกษา ทั้งในกรุงเทพ และระดับจังหวัด ที่
ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน ซึ่งตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมถึงตลาดคอนซูเมอร์ ที่ใช้โปรเจคเตอร์เพื่อความบันเทิงในที่พักอาศัย โดยไฮไลท์จะอยู่ที่เครื่องรุ่นโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่เป็นเครื่อง 3D และ Apple Device Dock Projector ซึ่งเป็นโปรเจคเตอร์ระบบ HD สำหรับอุปกรณ์ Apple รุ่นแรกของโลก”
สินค้าใหม่ทั้ง 21 รุ่น ประกอบด้วย สินค้าในกลุ่ม Smart ซีรี่ส์ 9 รุ่น ที่มีความสว่างตั้งแต่ 2,600 — 3,000 ANSI Lumens เป็นสินค้ารุ่นประหยัด เน้นความคุ้มค่า เหมาะกับงานพรีเซนต์ทางธุรกิจ ใช้ในห้องเรียน และใช้เป็น โฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้แก่ ซีรี่ส์ S ที่มีความละเอียดในการแสดงภาพแบบ SVGA จำนวน 3 รุ่น คือ EB-S02, EB-S11 และ EB-S12 ซีรี่ส์ X ความละเอียดแบบ XGA จำนวน 4 รุ่น คือ EB-X02, EB-X11, EB-X12 และ EB-X14 และซีรี่ส์ W เครื่องรุ่นไวด์สกรีน ที่เพิ่มช่อง HDMI ซึ่งจะช่วยในการแสดงภาพที่มีคุณภาพสูง จำนวน 2 รุ่น คือ EB-W02 และ EB-W12
สินค้าในกลุ่ม Evolution ซีรี่ส์ เหมาะกับลูกค้ากลุ่มองค์กรธุรกิจ สถาบันศึกษา โรงพยาบาล และหน่วยงานราชการ เปิดตัวพร้อมกัน 5 รุ่น ได้แก่ EB-1840W, EB-1850W, EB-1860, EB-1870 และ EB-1880 เป็นรุ่นที่มีฟังก์ชั่นครบครัน เหมาะกับงานหลายประเภท มีจุดเด่นตรงที่พอร์ตการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และมีความสว่างมากถึง 4,000 ANSI Lumens ให้ภาพที่คมชัดสูง ฟังก์ชั่นเด่น ประกอบด้วย USB Display Function สามารถต่อยูเอสบีตรงเข้าโปรเจคเตอร์ ฟังก์ชั่น USB Memory Slide Show โหมดสไลด์โชว์ แสดงภาพอัตโนมัติทันที่ที่ต่อยูเอสบี ฟังก์ชั่น Quick Start Up และ Instant Off ช่วยให้เปิดและปิดเครื่องได้อย่างรวดเร็วทันใจ และฟังก์ชั่น Screen Fit ที่ช่วยปรับภาพให้พอดีกับสกรีนเพียงแค่ปุ่มเดียว
สินค้าในกลุ่ม Short Throw Lens ซึ่งเน้นที่กลุ่มสถาบันศึกษาเป็นหลัก จุดเด่นตรงที่ระยะฉายที่สั้น วางเครื่องห่างจากสกรีนเพียง 50 — 60 ซม. ก็สามารถฉายภาพขนาดใหญ่ คมชัด เห็นรายละเอียดอย่างชัดเจนจากทุกพื้นที่ของห้องเรียน โดยปราศจากแสงเงารบกวน ทำให้ทุกการเรียนการสอนไม่สะดุด สินค้าที่เปิดตัวในครั้งนี้มีด้วยกัน 4 รุ่นได้แก่ EB-420, EB-430, EB-425W และ EB-435W
ต่อมา สินค้าในกลุ่ม Apply Device Dock Projector ที่เปิดตัวในครั้งนี้ คือ Epson MG-850HD ที่สามารถต่อเชื่อมกับเครื่องไอโฟน ไอแพด หรือ ไอพอด ด้วย Dock ในตัวเครื่อง ที่ให้คุณภาพภาพสมจริงระดับ Full HD พร้อมด้วยลำโพงคู่คุณภาพดีขนาด 10 วัตต์ในตัวเครื่อง ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับภาพยนตร์ ดนตรี และรูปถ่าย ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ Apple ของตัวเอง
และสุดท้าย สินค้าในกลุ่มโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งในครั้งนี้เอปสัน เปิดตัวเครื่องรุ่น 3D ทีเดียว 2 รุ่น ได้แก่ EH-TW6000 และ EH-TW8000 ที่มีระดับความสว่างสูงที่สุดในโปรเจคเตอร์ 3D ในตลาดปัจจุบัน ด้วยรีเฟลชเรทสูงถึง 480 เฮิร์ทซ์ ช่วยลดช่วงเวลาเปลี่ยนเฟรมภาพ 3D นอกจากนี้ เครื่องรุ่น EH-TW8000 ยังสามารถแปลงไฟล์ภาพยนตร์ 2D เป็น 3D ได้
นายยรรยง กล่าวถึงเป้าหมายในปีนี้ว่า เอปสัน ตั้งเป้าเติบโตสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ในปีนี้ไว้ที่ 50% หรือคิดเป็นยอดขาย 550 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้ารักษาตำแหน่งเจ้าตลาดต่อไป และคงความเป็นหมายเลขหนึ่งด้านอิมเมจโซลูชั่น พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 40% และด้วยกลยุทธ์ทางการขายและการตลาดที่กล่าวมา เอปสันมั่นใจว่าจะช่วยตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ และช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในการคงความเป็นผู้นำในตลาดโปรเจคเตอร์ไว้ได้ในที่สุด