กลุ่มทิสโก้ปลื้มธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง กำไรไตรมาส 3/54 เพิ่ม 23%

จันทร์ ๑๗ ตุลาคม ๒๐๑๑ ๑๖:๒๑
กลุ่มทิสโก้โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3/54 มีกำไรสุทธิ 899 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อทุกภาคส่วน มั่นใจแผนการดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพ ส่งให้ภาพรวมธุรกิจทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยมีความท้าทายสูง

นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mrs. Oranuch Apisaksirikul, Group CEO) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในไตรมาส 3/54 ที่ผ่านมาว่า แม้ปีนี้จะเป็นปีที่มีความท้าทายเป็นอย่างมากจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน อย่างไรก็ตาม ด้วยแผนการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในไตรมาส 3 มีการขยายตัวในระดับที่น่าพอใจ โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 23.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อในทุกภาคส่วน

“ท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้น ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก ที่มีปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนของปัญหาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา และปัจจัยภายในประเทศเช่นเหตุการณ์อุทกภัยที่ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่มาก ซึ่งปัจจัยทั้งหมดดังกล่าวย่อมส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มทิสโก้ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบมาโดยตลอดในทุกสภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้ภาพรวมตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เรายังคงมีผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานรวมทั้งปีของกลุ่มทิสโก้จะบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน”

ด้านนายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (Mr. Suthas Ruangmanamongkol, President, TISCO Bank Plc.) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของธนาคารทิสโก้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีการขยายตัวที่โดดเด่น ทั้งในส่วนของสินเชื่อและเงินฝาก โดยสินเชื่อรวมมีการเติบโตถึง 21.4% จากสิ้นปี 53 โดยสินเชื่อรายย่อยเติบโต 18.8% ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อธุรกิจมีการเติบโตที่โดดเด่น โดยเติบโตถึง 46.3% และ 51.7% ตามลำดับ

“สำหรับสินเชื่อรถยนต์ซึ่งเป็นพอร์ตสินเชื่อหลักของทิสโก้ยังคงมีการขยายตัวที่น่าพอใจ โดยสินเชื่อเช่าซื้อเติบโต 16.7% จากสิ้นปี 53 สินเชื่อจำนำทะเบียน TISCO Auto Cash เติบโต 32.3% จากสิ้นปี 53 และสินเชื่อเพิ่มวงเงิน TISCO Top Up สำหรับเจ้าของรถ ที่เริ่มให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อกว่า 1,800 ล้านบาท

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ คงส่งผลกระทบต่อตลาดเช่าซื้อรถยนต์โดยรวมทั้งอุตสาหกรรมในช่วง 1-2 เดือนนี้ เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงที่ทุกคนหยุดและรอดูว่าเหตุการณ์น้ำท่วมจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่าหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ตลาดก็จะมีการฟื้นตัวทันที นอกจากนี้ยังมีปัจจัยส่งเสริมจากมาตรการรถคันแรกของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของยอดขายรถยนต์ใหม่ จึงมั่นใจว่าธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์จะได้รับผลดี และจะยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” นายสุทัศน์ กล่าว

สำหรับเงินฝากรวม ซึ่งได้แก่เงินฝากและตั๋วแลกเงินระยะสั้นมีการเติบโตที่โดดเด่นเช่นกัน โดยเติบโตถึง 28.8% จากสิ้นปี 2553 เนื่องจากธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากและตั๋วและเงินด้วยอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3/54 ธนาคารได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในเงินฝากทุกประเภท โดยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในปัจจุบันได้แก่เงินฝากออมทรัพย์ไดมอนด์ บัญชีออมทรัพย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 3% ต่อปี และตั๋วแลกเงินพิเศษ อายุ 7 เดือน ที่นำเสนออัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4.5% ต่อปี

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ขยายช่องทางการให้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 ได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 แห่งที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เพื่อให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร และสำนักอำนวยสินเชื่อทิสโก้ลีสซิ่ง เพิ่มอีก 2 แห่งในต่างจังหวัด เพื่อให้บริการเช่าซื้อรถยนต์ที่ครบวงจร โดยปัจจุบันมีสาขาธนาคารทิสโก้และสาขาสำนักอำนวยสินเชื่อ รวมกันจำนวน 56 แห่ง ทั่วประเทศ

นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยงกลุ่มทิสโก้ (Mr. Chatri Chandrangam, CFO) กล่าวถึงรายละเอียดของผลประกอบการไตรมาส 3/54 ว่า กลุ่มทิสโก้มีผลกำไรหลังผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในไตรมาส 3/2554 จำนวน 898.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 168.29 ล้านบาท หรือ 23.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2554 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิหลังผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 2,590.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 384.94 ล้านบาท หรือ 17.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 2,205.78 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 6.9% นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 11.1% มาอยู่ที่ 3,130.22 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ซึ่งเพิ่มขึ้น 24.2% ตามการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อทุกภาคส่วนและธุรกิจประกันภัยธนกิจ ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้น 12.3% ตามการขยายตัวของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร และการออกกองทุนที่หลากหลายตรงตามความต้องการลูกค้า นอกจากนี้ รายได้ค่านายหน้าธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ตามปริมาณการซื้อขายของตลาดที่สูงขึ้น

โดยธุรกิจธนาคารทิสโก้ มีเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2554 มีจำนวน 181,738.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 21.4% จากสิ้นปี 2553 ตามการเติบโตของสินเชื่อในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตอย่างมากของสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งมีจำนวนสินเชื่อ 13,611.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% จากสิ้นไตรมาส 2 ปี 2554 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของสินเชื่อเพื่อผู้จำหน่ายรถยนต์ สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีมูลค่าของสินเชื่อจำนวน 123,863.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่อนุมัติใหม่มีจำนวน 16,167.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2553 นอกจากนี้ สินเชื่ออเนกประสงค์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ ทิสโก้ ออโต้ แคช มีจำนวน 7,103.49 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.8% เทียบกับไตรมาส 2 ปี 2554 ด้านสินเชื่อธุรกิจมีจำนวน 28,754.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% จากสิ้นไตรมาส 2 ปี 2554

ด้านธุรกิจหลักทรัพย์ไตรมาส 3/54 มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันผ่าน บล.ทิสโก้ เท่ากับ 1,362.98 ล้านบาท ลดลง 16.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 นี้ มีปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนของปัญหาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกว่าปัญหาในประเทศดังกล่าวจะลุกลามมากขึ้น และมีการเทขายหุ้นทั่วโลก ทั้งนี้ รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในไตรมาส 3/54 ปรับตัวลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน 11.6% โดยสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของ บล. ทิสโก้ ประกอบด้วย ลูกค้าสถาบันในประเทศ 26.3% ลูกค้าสถาบันต่างประเทศ 20.9% และลูกค้ารายย่อยในประเทศ 52.8%

ธุรกิจจัดการกองทุน บลจ.ทิสโก้ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร ณ วันที่ 30 ก.ย. 54 จำนวน 131,793.85 ล้านบาท ลดลง 3.3% เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาสที่แล้ว ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานจากธุรกิจจัดการกองทุนในไตรมาส 3/54 เท่ากับ 158.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน มีส่วนแบ่งตลาด ณ วันที่ 31 ส.ค. 54 เป็นอันดับที่ 6 ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเท่ากับ 5.0% แบ่งเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นอันดับ 3 โดยมีส่วนแบ่งตลาด 13.5% สำหรับกองทุนส่วนบุคคลมีส่วนแบ่งตลาดมากเป็นอันดับที่ 2 มีส่วนแบ่งตลาด 13.5% และกองทุนรวมอยู่ที่อันดับที่ 15 มีส่วนแบ่งตลาด 0.9% ทั้งนี้ มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารแบ่งเป็นสัดส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 61.3% กองทุนส่วนบุคคล 27.4% และกองทุนรวม 11.3%

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

เสาวนีย์ สันทบ ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์

บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โทร. 02 633 6906

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO