คุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “เหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ประชาชนในหลายจังหวัดประสบกับปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนักจากการถูกตัดขาดจากสาธารณูปโภคต่างๆ และทรัพย์สินที่เสียหายจากน้ำท่วม อีซูซุจึงได้จัดตั้งโครงการ “อีซูซุร่วมใจ...สู้ภัยน้ำท่วม” โดยประสานความร่วมมือไปยังมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และคุณเมทนี บูรณศิริ (นีโน่) พร้อมเหล่าศิลปินชื่อดัง จัดขบวนคาราวาน “อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!” รถปิกอัพสำหรับคนทั้งโลก จำนวน 11 คัน พร้อมด้วยรถบรรทุกอีซูซุขนาดใหญ่ นำอาหาร น้ำดื่ม ตลอดจนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดพระนครอยุธยา เป็นธารน้ำใจต่อเนื่องหลังจากที่ อีซูซุได้บริจาคเงินผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมถึงร่วมมือกับผู้จำหน่ายอีซูซุ และหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนศิลปินผู้มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น คุณแอน ทองประสม คุณนีน่า-กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์ คุณจอห์น รัตนเวโรจน์และวงนูโว ในการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยการแจกจ่ายน้ำดื่ม “อีซูซุ” และบะหมี่ “อีซูซุดีแมคซ์” จำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯ ยังได้มอบส่วนลดพิเศษ! สำหรับค่าอะไหล่อีซูซุ 30% และค่าแรง 15% แก่ลูกค้ารถอีซูซุที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้อีกด้วย”
นอกจากนี้ อีซูซุยังได้จัดตั้งโครงการ “อีซูซุร่วมใจ บรรเทาภัยน้ำท่วม” ด้วยการระดมทีมช่างซ่อมและวิศวกรผู้ชำนาญการของอีซูซุลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือลูกค้าอีซูซุในจังหวัดต่างๆ หลังจากน้ำลดเพื่อเป็นการฟื้นฟูรถของผู้ประสบภัย ทั้งนี้อีซูซุได้ประสานงานไปยังศูนย์บริการอีซูซุทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการให้บริการดังกล่าว
ลูกค้าอีซูซุที่สนใจเข้ารับบริการสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการอีซูซุประจำจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารการตลาด โทร. 02-9662127-9
ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานองค์กรสัมพันธ์
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
โทร. 02-966-2127-9
* * * * *
ข้อปฏิบัติในการบำรุงรักษารถยนต์หลังน้ำลด
ผู้ประสบภัยควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบและเช็คระบบทั้งหมดทันที ดังรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้
1. ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากถังทั้งหมด แล้วเปิดฝาไว้เพื่อไล่ความชื้น แล้วจึงเติมน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่เข้าไปแทน, ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันใหม่, หากมีน้ำเข้าไปเต็มกรองดักน้ำและปั้มน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องทำการถอดปั้มและหัวฉีดออกเพื่อทำความสะอาด และปรับตั้งปริมาณการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่
2. เครื่องยนต์ ถ้ามีน้ำเข้าไปปนกับน้ำมันเครื่อง ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องทิ้งให้หมดและเติมน้ำยาทำความสะอาด (Flushing Oil) เข้าไปแล้วจึงติดเครื่องยนต์ เดินเบาประมาณ 5 นาที จึงถ่ายน้ำยาออกพร้อมทั้งเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องใหม่ จากนั้นจึงเติมน้ำมันเครื่องใหม่ตามที่คู่มือกำหนด, ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่, ทำการไล่น้ำที่ขังอยู่ที่หัวลูกสูบออกทางช่องหัวฉีดสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล หรือช่องหัวเทียนสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน, หยอดน้ำมันเครื่องประมาณ 20 ซีซี.ในช่องหัวฉีด (ดีเซล) หรือช่องหัวเทียน (เบนซิน) จากนั้นหมุนเครื่องยนต์หลาย ๆ รอบจนกว่าจะมีน้ำมันขึ้นไปเลี้ยงฝาสูบเพียงพอ
3. ตัวถังรถยนต์ ควรนำรถตากแดดเพื่อไล่ความชื้น ส่วนบริเวณภายในรถให้ใช้กระจกเงาสะท้อนแดดเข้าไปหรือใช้ไฟสปอร์ตไลท์ส่อง, ควรเปิดประตูทุกบาน ฝากระโปรงหน้า-หลังให้กว้างที่สุดเพื่อให้ลมผ่านหรือใช้พัดลมเป่าแทน, ถอดผ้าปูพื้นล้างแล้วเช็ดทำความสะอาดจากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง
4. แบตเตอรี่ ถ้าถูกน้ำท่วมต้องเปลี่ยนน้ำยาแบตเตอรี่ใหม่ โดยเทน้ำยาเก่าออกให้หมด ใส่น้ำกลั่นให้เต็มทุกช่องแล้วเทน้ำกลั่นทิ้งเพื่อทำความสะอาดภายในแบตเตอรี่ จากนั้นเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับสูงสุด และนำไปชาร์จ
5. อุปกรณ์ไฟฟ้า ตรวจดูอุปกรณ์ไฟฟ้า ถ้ามีน้ำขังให้ถอดออกเทน้ำทิ้ง ทำความสะอาดแล้วนำไปตากแดดหรือใช้เครื่องเป่าผมเป่าเพื่อไล่ความชื้น, ถอดมอเตอร์สตาร์ทและไดชาร์จออกทำความสะอาดแล้วทาจาระบีหล่อลื่นที่บุ๊ช ร่องเฟือง และจุดหมุนต่าง ๆ, เช็ดทำความสะอาดขั้วเสียบสายไฟต่าง ๆ เพื่อไล่ความชื้น
6. อุปกรณ์เกียร์และเฟือง ถ่ายน้ำมันที่อยู่ในเกียร์ เฟืองท้าย กระปุกพวงมาลัยออกให้หมด แล้วล้างทำความสะอาดด้วยน้ำมันก๊าด และเติมน้ำมันตามที่คู่มือกำหนดเข้าไปใหม่
7. อุปกรณ์ระบบเบรก ถอดเบรกที่ล้อออกทำความสะอาดชิ้นส่วนต่าง ๆ ถอดยางกันฝุ่นของกระบอกออกมาเป่าลม ทั้งลูกยางและผนังกระบอกเบรกจนแห้ง ทาจาระบีที่ผนังกระบอกเบรกแล้วจึงใส่ลูกยางกันฝุ่นกลับเข้าไป นำผ้าเบรกตากแดดให้แห้ง หล่อลื่นชิ้นส่วนด้วยจาระบี สำหรับสายเบรกมือให้ใช้น้ำมันเครื่องหล่อลื่นภายในสายจนคล่องตัวและทำการเปลี่ยนน้ำมันเบรกใหม่