ศักยภาพด้วยการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อเพิ่มจำนวนสินค้าให้มากขึ้น จากการส่งเสริมให้บริษัทในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทและเปิดกว้างสำหรับธุรกิจทุกขนาด รวมทั้งธุรกิจที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค เข้ามาระดมทุนในตลาดทุน ซึ่งมีทางเลือกอยู่มากไม่ว่าจะเป็นการออกขายหุ้น หุ้นกู้ รวมถึงธุรกิจเงินร่วมลงทุน (venture capital) ซึ่งเป็นแหล่งทุนสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มดำเนินงานแต่มีศักยภาพที่จะเติบโตได้ดี
แนวคิดดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างดีจากชมรมวาณิชธนกิจ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเห็นว่าหลาย
อุตสาหกรรมในประเทศไทยมีบริษัทที่ประกอบธุรกิจที่มีศักยภาพสูงและโดดเด่นในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจโรงพยาบาลที่พร้อมจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางสุขภาพ (medical hub) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรม และธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (renewable energy) ซึ่งต้องการระดมทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจและเงินลงทุนเพื่อขยายกิจการ แต่ในปัจจุบันธุรกิจเหล่านั้นอาจยังไม่ได้รับโอกาสในการระดมทุนในตลาดทุน
มากเท่าที่ควร
“หากตลาดทุนไทยเติบโตอย่างเชื่องช้าจะทำให้เกิดผลกระทบหลายด้าน รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในตลาดทุน
ย่อมได้รับผลกระทบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทุกภาคส่วนในตลาดทุนจึงต้องร่วมมือกันเร่งให้ข้อมูลแก่ผู้ประกอบการให้เห็นถึงประโยชน์ของตลาดทุนในฐานะแหล่งระดมทุนที่สำคัญและน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ผู้ประกอบการจะได้ทราบว่าการออกหุ้น หุ้นกู้ และการระดมทุนรูปแบบต่าง ๆ ในตลาดทุนไม่ได้ยากลำบากหรือมีค่าใช้จ่ายมากมายแต่อย่างใด แต่จะเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ผู้ประกอบการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจและของประเทศด้วย” นายวรพล กล่าว