เครือธนาคารกสิกรไทยโชว์กำไร 21,193 ล้านบาท เพิ่ม 43.54%

พฤหัส ๒๐ ตุลาคม ๒๐๑๑ ๐๘:๔๔
ธนาคารกสิกรไทยและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2554 จำนวน 7,761 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 6.05% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 40.70% สำหรับกำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปี 2554 มีจำนวน 21,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 43.54%

นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2554 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 7,761 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 443 ล้านบาท หรือ 6.05% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 2,245 ล้านบาท หรือ 40.70% โดยส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อ และการจัดการโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินให้สอดคล้องกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ทำให้ในไตรมาสนี้มีอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin :NIM) อยู่ที่ระดับ 3.65% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิยังคงรักษาระดับการเติบโต ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจในเชิงรุกแบบเป็นเครือ ที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity)

สำหรับกำไรสุทธิงวด 9 เดือน ปี 2554 จำนวน 21,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 6,428 ล้านบาท หรือ 43.54% ซึ่งปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานที่ดีเกิดจากการขยายตัวของธุรกิจหลัก ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 21.30% และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถึง 25.46% โดยเป็นรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้น 19.80% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากค่าธรรมเนียมรับเกี่ยวกับบัตรเครดิต ค่าธรรมเนียมรับจาก บลจ.กสิกรไทย ที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจจัดการกองทุนรวม รวมถึงค่าเบี้ยประกันภัยรับสุทธิจาก บจก.เมืองไทยประกันชีวิต ที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิต ในขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Efficiency Ratio) อยู่ที่ 45.11% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.84%

ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 เครือธนาคารกสิกรไทยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 1,777,794 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อจำนวน 1,199,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 32,039 ล้านบาท หรือ 2.75% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของ เงินให้สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ และเงินให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL Gross) อยู่ที่ระดับ 2.25% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ระดับ 2.52% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการด้านสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นแกนสำคัญของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา และยุโรป คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียในปี 2555 ให้เผชิญความไม่แน่นอนมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นด้วย ดังนั้น เครือธนาคารกสิกรไทยจึงยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ผ่านยุทธศาสตร์การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) และการตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยบริการทางการเงินที่ครบวงจรอย่างมีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการให้ความสำคัญในด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ