กรมสุขภาพจิต แนะ "ผนึกกำลัง ร่วมใจ สู้ภัยน้ำท่วม" มุ่งเน้นให้ทุกคนปลอดภัยใช้พลังชุมชนช่วยเหลือและจัดการปัญหากันเอง อย่างมีสติและมีความหวัง

พฤหัส ๒๐ ตุลาคม ๒๐๑๑ ๑๑:๐๖
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า สุขภาพจิตของผู้ประสบภัยในพื้นที่ 36 จังหวัด ณ วันที่ 18ต.ค. 2554 จากการประเมินคัดกรอง จำนวน 93,234 ราย พบ เครียดสูง 3,857 รายซึมเศร้า 5,493 ราย เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย 765 ราย ต้องติดตามดูแลพิเศษ 1,162 ราย และจากการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ ณ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นับตั้งแต่ 8 ต.ค. 2554 พบประชาชนโทรเข้ามาขอรับบริการ รวม 693 ราย ปัญหาที่ขอรับบริการ ได้แก่เครียด และวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น เครียดเนื่องจากอพยพออกจากพื้นที่ไม่ได้ ตลอดจนวิตกกังวลเนื่องจากมีโรคและปัญหาสุขภาพกาย ขณะที่การออกหน่วยบริการปรึกษาด้านสุขภาพจิตในสถานการณ์ ภัยพิบัติ ณ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นับตั้งแต่ 16 ต.ค.2554 ได้ให้บริการปรึกษาแล้วทั้งสิ้น 11 ราย ส่งต่อผู้ป่วย จำนวน 1 ราย ผู้รับบริการ ได้แก่ ประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่/ผู้ที่มาปฏิบัติหน้าที่ ณ. สนามบินดอนเมือง ปัญหาที่เข้ามาขอรับบริการ ได้แก่ การประเมินความเครียด การจัดการความเครียดด้วยตนเอง และการดูแลจิตใจในสถานการณ์วิกฤต

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า เนื่องจากขณะนี้พื้นที่น้ำท่วมได้ขยายวงกว้างครอบคลุมในหลายจังหวัด ในสถานการณ์ที่วิกฤตเช่นนี้ การดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐอาจจะดำเนินการได้ไม่ทั่วถึง การรอความช่วยเหลือจากภายนอกเพียงอย่างเดียว อาจทำให้มีโอกาสผิดหวัง โกรธแค้น และสิ้นหวัง เพื่อให้ทุกคนปลอดภัย จำเป็นต้องอาศัย ความเข้มแข็งของชุมชนด้วยการ "ผนึกกำลัง ร่วมใจ สู้ภัยน้ำท่วม"ซึ่งต้องดึงพลังชุมชนเข้ามาช่วยเหลือและจัดการปัญหากันเอง อย่างมีสติและมีความหวัง โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนสภาวะเหยื่อจากภัยพิบัติ มาเป็นผู้ร่วมกอบกู้วิกฤติ เผชิญกับปัญหาอย่างมีสติสามารถเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กับผู้ประสบภัยภายในชุมชนของตัวเองให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตได้วางแผนดูแลและฟื้นฟูจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ครอบคลุม ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1) การจัดระบบบริการสุขภาพในภาวะวิกฤตโดยระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานนอกพื้นที่ ทั้งในและนอกกรมสุขภาพจิต จัดกิจกรรม/บริการแบบองค์รวม เชื่อมโยงร่างกาย จิตใจและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผู้ให้ความช่วยเหลือ (Helper) 2) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารศูนย์พักพิงเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนจาก"เหยื่อ" เป็น "ผู้กอบกู้วิกฤต" ลดโอกาสการเกิดความขัดแย้งและเกิดภาวะแทรกซ้อนจากปัญหาสุขภาพจิต และ 3) การบริหารการสื่อสารในภาวะวิกฤต ที่ส่งเสริมสุขภาพจิต โดยไม่สร้างปัญหาจากการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้ประสบภัยสามารถขอรับบริการด้านสุขภาพจิตได้ที่หน่วยบริการสุขภาพจิตโดยความร่วมมือกับสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ประสบภัย หรือ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง www.dmh.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย