อียูออกระเบียบใหม่การตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอาหารที่มาจากสัตว์

พฤหัส ๒๐ ตุลาคม ๒๐๑๑ ๑๔:๒๙
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่อียูได้ออกกฎระเบียบ Regulation (EU) No 178/2002 of European Parliament and of the Council for food of animal origin ที่กำหนดหลักการทั่วไปและข้อบังคับต่างๆเกี่ยวกับระเบียบและความปลอดภัยของอาหารตั้งแต่เมื่อ ปี 2545 นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2554 อียูได้ออกระเบียบใหม่เกี่ยวกับข้อกำหนดในเรื่องการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าที่มาจากสัตว์ (Commission Implementing Regulation (EU) No 931/2011) ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1. กฎระเบียบนี้บังคับใช้กับสินค้าอาหารทั้งสินค้าแปรรูปและไม่แปรรูป แต่ไม่รวมถึงสินค้าอาหารที่มีส่วนประกอบทั้งจากพืชและจากสัตว์ผสมกัน

2. ผู้ประกอบธุรกิจอาหารต้องจัดทำข้อมูลให้ผู้รับซื้อสินค้าเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ ดังนี้

1) รายละเอียดสินค้า

2) ขนาดและปริมาณสินค้า

3) ชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้ส่งสินค้าต่อ

4) ชื่อและที่อยู่ของเจ้าของหรือผู้ส่งสินค้า หากไม่ใช่คนเดียวกับผู้ส่งสินค้าต่อ

5) ชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้รับสินค้าต่อ

6) ชื่อและที่อยู่ของเจ้าของหรือผู้รับสินค้า หากไม่ใช่คนเดียวกับผู้รับสินค้าต่อ

7) เอกสารหรือหนังสืออ้างอิงเพื่อแสดงการส่งมอบสินค้า

8) วันที่จัดส่งสินค้า

ข้อมูลตามข้อ 2 ทั้งหมดเป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้ประกอบการต้องส่งมอบให้แก่ผู้รับซื้อสินค้า เพิ่มเติมจากข้อมูลปัจจุบันที่กำหนดไว้ภายใต้กฎหมาย Union Legislation ซึ่งข้อมูลควรจะต้องมีการปรับปรุงเป็นประจำทุกวันและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ จนกว่าสินค้านั้นจะได้บริโภค ทั้งนี้ กฎระเบียบมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์

http://eur-lex.europa.eu/LexUriserv/LexUriServ.do?uri=OJ:L:2001:0002:0003:EN:PDF

นายสุรศักดิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎระเบียบใหม่นี้กำหนดขึ้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนของระบบการตรวจย้อนกลับสินค้าอาหารที่มาจากสัตว์ ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรศึกษาและปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าว เพื่อลดปัญหาการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังอียู เนื่องจากไทยส่งออกสินค้าประมง, ปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องและแปรรูปไปอียู มูลค่าเฉลี่ย 63,834.3 ล้านบาทต่อปี (2551-2553) และปี 2554 (ม.ค.- ส.ค.) ส่งออกมูลค่า 17,284.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน

ที่มา:

1. สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์

2. สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป

3. Official Journal of the European Union, L 242/2

4. www.moc.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๗ ทันตแพทย์ ม.พะเยา ลงพื้นที่ดูแลสุขภาพช่องปาก เด็กปากแหว่งเพดานโหว่ เติมรอยยิ้มสดใส ฟันดีทุกวัย
๑๗:๐๐ 'สานใจไทย สู่ใจใต้' รุ่นที่ 44 ซีพี - ซีพีเอฟ หนุนโครงการต่อเนื่องมุ่งเสริมสร้างโอกาสการศึกษา พัฒนาความคิดและทักษะอาชีพแก่เยาวชนไทยรุ่นใหม่
๑๗:๑๒ สงกรานต์นี้ ฉลองไปกับโรยัล เอ็นฟีลด์
๑๗:๐๗ ' ถอดบทเรียน' พลิกวิกฤต สู่โอกาส เรียนรู้แผ่นดินไหว สู่การจัดการอย่างยั่งยืน กรมอนามัย-สบส.มหิดล-อุบลราชธานี
๑๗:๔๑ ดีพร้อม เปิดโปรเจ็กต์สุดปังหนุนผู้ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์แฟชั่นสายมูมงคล ดึงวัฒนธรรม ศรัทธา เสริมพลังบวก
๑๗:๔๑ ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ประกาศผลผู้ชนะโครงการประกวดภาพศิลปะเด็กและเยาวชนแนวคิด ดื่มไม่ขับ หนุนทักษะศิลปะเยาวชน
๑๗:๐๗ โครงการอบรมและพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ ประจำปี 2568 ให้คำปรึกษาทางการแพทย์แผนกทุยหนาและกระดูก
๑๗:๔๒ CPF เปิดบ้าน จัดงาน 'CP SPLASH IN SPACE' ปลุกพลัง Soft Power ชวนคนไทยฉลองสงกรานต์ เสิร์ฟความมันส์ ทะลุอวกาศบนถนนสีลม
๑๗:๐๐ BSRC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มีมติอนุมัติเดินหน้าการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท
๑๗:๑๖ Splashing Together ทรู ดีแทค รวมกัน สงกรานต์สนุกขึ้นเยอะเลย