พลังแห่งเสียงเพลงครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อหาทุนสนับสนุนโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ที่ริเริ่มโดยมูลนิธิในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นโครงการปลูกฝังนิสัยรักวิชาวิทยาศาสตร์แก่เด็กในวัยอนุบาล อายุระหว่าง 3-6 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นวัยที่มีความสามารถในการเรียนรู้และการจดจำสูง จึงสมควรวางรากฐานที่ดี ให้มีทัศนคติและทักษะพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ สำหรับปีนี้โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย วางแผนการขยายผลสู่โรงเรียนอนุบาลกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ ให้เด็กกล้าคิด กล้าทำ กล้าพูดและทำให้เด็กเห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นวิชาน่าสนใจ นอกจากนี้ยังเป็นความหวังของประเทศ ที่จะสร้างนักวิจัย นักประดิษฐ์หน้าใหม่ๆ ที่อาจจะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ ผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคตอันใกล้
คอนเสิร์ตครั้งนี้เริ่มด้วยบทเพลงของคีตกวีเอกโลก อย่างบีโธเฟน ในเพลง Leonore Ouverture No 3 โดยมี ผู้อำนวยเพลง คือ มร.วูล์ฟกัง เฮนเซล วาทยกรฝีมือดีชาวเยอรมัน และบทเพลงแห่งฝันอีกมาก อาทิ Hungarian Dance No1, Hungarian Dance No.5, Ouverture The Marriage of Figaro, Waltz and Polonaise from Eugen Onegin ฯลฯ ส่วนไฮไลต์อยู่ที่การแสดงเดี่ยวเป่าฟลุตโดยศิลปินชาวออสเตรีย มร.เฮนริก วีซี่ส์ ที่ทำให้ผู้ชมทั้งฮอลล์ ได้ค้นพบศักยภาพของบทเพลงอันไพเราะ ทั้งจากอากัปกริยาตลอด การแสดง ที่เห็นถึงความสำคัญในการสื่อสารกับวงออร์เคสตร้า ตลอดจนการเคลื่อนไหว โยกย้ายส่ายตัว ไปมาขณะเป่าฟลุต บางช่วงของการโซโล วีซี่ส์เป่าฟลุตด้วยน้ำเสียงที่เบามากๆ ลื่นไหล เป็นลูกเล่นลูกล้อ กับวง ราวกระซิบ ที่สะกดผู้ชมทั้งฮอลล์พากันเงี่ยหูฟังด้วยใจจดจ่อ การแสดงโชว์ ปิดท้ายด้วยการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ “คำหวาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาบรรเลง เพื่อเป็นการเผยแพร่ พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี และเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่ปีมหามงคล เพลงพระราชนิพนธ์นี้ มีจังหวะ รุกเร้า อารมณ์เพลงหวานๆ ปนเศร้าๆ ในลีลาที่ไม่เร็วนัก และปิดท้ายโดย ฯพณฯ มร.รอลฟ์ ชูลเซ่ เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย ขึ้นเป็นประธานมอบช่อดอกไม้แก่ มร.วูล์ฟกัง เฮนเซล ผู้อำนวยเพลงของวงฯ ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน ด้วยความประทับใจทั้งความไพเราะของ การบรรเลงเพลงและได้ทำการกุศลร่วมกันในงานนี้
สัมผัสอรรถรสแห่งพลังทางดนตรี พร้อมร่วมสานฝัน..สร้างความหวัง..สรรค์สร้างนักวิทยาศาสตร์ไทย