ธนาคารกรุงเทพรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 7,551 ล้านบาท

ศุกร์ ๒๑ ตุลาคม ๒๐๑๑ ๐๘:๑๒
- กำไรสุทธิไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.3

- ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.88

- อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็นร้อยละ 40.0

ธนาคารกรุงเทพรายงานผลการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทย่อยในไตรมาส 3 ปี 2554 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิ 7,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,377 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.3 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 จำนวน 21,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,482 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.1 จากช่วงเดียวกันของปี 2553

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานของธนาคารที่ดีในไตรมาส 3 เป็นผลมาจากปัจจัยที่เอื้ออำนวยหลายประการ ทั้งการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาสูงขึ้นและภาคอุตสาหกรรมต้องเร่งเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากได้รับผลกระทบจากการจัดหาวัตถุดิบที่ชะงักไปในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ความต้องการเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น”

“ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และความจำเป็นของภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ประกอบกับการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้มีความต้องการสินเชื่อเพื่อการลงทุน” นายชาติศิริกล่าว

“การที่ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อสำหรับบริษัทขนาดใหญ่และธุรกิจเอสเอ็มอี ทำให้ธนาคารได้ประโยชน์จากความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าธุรกิจทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าว โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เงินให้สินเชื่อของธนาคารเพิ่มขึ้นจำนวน 144,790 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.5 จากวันที่ 31 ธันวาคม 2553 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.1 จากวันที่ 30 กันยายน 2553 ซึ่งสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความต้องการของบริษัทขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในขณะที่สินเชื่อสำหรับลูกค้าบุคคลก็เพิ่มขึ้นด้วยเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปีนี้”

การบริหารความเสี่ยงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ธนาคารยังคงให้ความสำคัญ ส่งผลให้คุณภาพของเงินให้สินเชื่อของธนาคารอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 ลดลงเหลือ 42,024 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.8 ของสินเชื่อรวม เทียบกับ 45,588 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.0 ณ สิ้นปี 2553

ธนาคารยังคงนโยบายการบริหารกิจการอย่างรอบคอบเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ธนาคารจึงตั้งสำรองค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญอีกจำนวน 4,982 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 158.9 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 เป็นร้อยละ 184.5

ณ สิ้นเดือนกันยายน 2554 ธนาคารมีเงินฝากจำนวน 1,533,943 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139,555 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.0 จากสิ้นเดือนธันวาคม 2553 การที่ธนาคารสามารถระดมเงินฝากได้เพิ่มขึ้นท่ามกลางการแข่งขัน เกิดจากการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ตลอดจนการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ตรงกับความต้องการของผู้ฝากเงิน เงินฝากที่เพิ่มขึ้นทำให้ธนาคารสามารถรักษาสภาพคล่องในระดับที่เหมาะสม และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากทรงตัวที่ร้อยละ 91.3

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและการขยายสินเชื่อ โดยในไตรมาส 3 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.88 เทียบกับร้อยละ 2.76 และ 2.55 ในไตรมาส 2 และไตรมาส 1 ตามลำดับ

ในไตรมาส 3 นี้ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 13,853 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,287 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.8 และมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 4,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว

เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2553 ธนาคารมีรายได้รวมจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.2 เป็น 21,357 ล้านบาท ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 เป็น 8,553 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ลดลงจากร้อยละ 41.0 เป็นร้อยละ 40.0

ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีเงินได้จำนวน 11,119 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,888 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.5 จากไตรมาส 3 ปี 2553 และเพิ่มขึ้น 1,019 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.1 จากไตรมาสก่อนหน้า

ธนาคารมีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับปี 2554 เพิ่มขึ้นเป็น 2.0 บาทต่อหุ้น เทียบกับ 1.5 บาทต่อหุ้นของช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคาร หากนับรวมกำไรของไตรมาส 3 เข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นและเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ประมาณร้อยละ 16.6 และร้อยละ 13.2 ตามลำดับ

ส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 มีจำนวน 233,608 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.6 ของสินทรัพย์รวมและมูลค่าหุ้นตามบัญชีเท่ากับ 122.4 บาทต่อหุ้น

“ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 4 คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศในขณะนี้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีพของประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจในพื้นที่ประสบภัยโดยตรงและผู้ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม ธนาคารได้มีการติดตามและประเมินสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และมีความมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือลูกค้าและชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรการผ่อนปรนด้านสินเชื่อและการสนับสนุนเพื่อฟื้นฟู ทั้งในส่วนที่เป็นการให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าและการออกมาตรการช่วยเหลือในระยะต่อไปด้วย” นายชาติศิริกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก