จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวัน 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้กล่าวถึงข้อมูลเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปีนี้ว่ายังขยายตัวได้ แต่เริ่มมีสัญญาณของการแผ่วลงของการส่งออก ซึ่งสอดคล้องกับเศรษฐกิจต่างประเทศที่อ่อนแอลง นอกจากนนี้ได้มีการประเมินว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นมีผลรุนแรงและทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนหยุดชะงัก ซึ่งจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก แต่การบูรณะซ่อมแซมความเสียหายจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ให้ทยอยกลับมาเติบโตได้ในระยะต่อไป โดยเริ่มมีการประเมินว่าผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมจะกระทบ GDP ปีนี้ให้ลดลงประมาณ 1% หรืออาจมากกว่านั้นหากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์น้ำท่วมที่ไหลเข้ากรุงเทพได้ ในขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยังประเมินเป้าหมาย GDP ปี 2555 ไว้ที่ 4.5% โดยน่าจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมในปีนี้
นอกจากนี้ จากการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.50% ในการประชุม กนง. ที่ผ่านมา เป็นการช่วยพยุงแรงกดดันด้านราคาสินค้า และช่วยเอื้อต่อการปรับตัวของเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นภาวะแห่งความผันผวนนี้ไปได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังอาจมีการปรับตัวลงต่อได้อีกเล็กน้อย
สำหรับตลาดตราสารหนี้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจไปด้วยเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร อายุ 10 ปี ได้ลดลงจาก 3.9% ในช่วงปลายเดือนกันยายน เหลือเพียง 3.48%ในขณะนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอัตราผลตอบแทนในระยะยาวได้มีการปรับตัวลงค่อนข้างมาก ขณะที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ในระยะสั้นมีการปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย
ดังนั้น การลงทุนในภาวะแห่งความผันผวนเช่นนี้ นักลงทุนอาจเลือกการลงทุนระยะสั้นๆ ที่มีระดับความเสี่ยงไม่สูงนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนที่มีเงื่อนไขของการคุ้มครองเงินต้น เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในขณะที่วางใจกับความปลอดภัยของเงินต้นได้ ซึ่งขณะนี้ เคเคฟันด์กำลังเปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ Rollover ระหว่างวันที่ 21-28 ตุลาคม 2554 ได้แก่ กองทุนเปิด เคเค สะสมทรัพย์คุ้มครองเงินต้น 3/2 (KK SP3/2) ระยะเวลาโครงการ 3 เดือน ผลตอบแทน 3.25%ต่อปี และกองทุนเปิด เคเค ตราสารหนี้ สะสมทรัพย์คุ้มครองเงินต้น 1 (KK SP1) ระยะเวลาโครงการ 1 เดือน ผลตอบแทน 3.15%ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยทั้งจำนวน จึงสามารถให้ความมั่นใจกับนักลงทุนในเรื่องการคุ้มครองเงินต้นได้อย่างแน่นอน
นักลงทุนที่สนใจลงทุน หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ บลจ. เกียรตินาคิน จำกัด 0-2624-8555 #2 หรือ www.kk-fund.com