ฟรอสต์ฯ แนะ ชาวกรุงตุนเสบียงอย่างมีสติ เพื่อเลี่ยงภาวะขาดแคลนช่วงวิกฤติ

ศุกร์ ๒๘ ตุลาคม ๒๐๑๑ ๑๔:๔๕
ดร. มนธ์สินี กีรติไกรนนท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกได้ให้ความเห็นว่า หากคนกรุงเทพพร้อมใจกันไม่กักตุนเสบียงมากเกิน 2-5 วัน ทุกคนยังมีทางรอด และไม่ประสบภาวะขาดแคลนอย่างในปัจจุบัน ทั้งนี้ รัฐบาลและร้านค้าควรร่วมกันแก้ไข โดยมีรัฐบาลคอยอำนวยความสะดวก ทั้งทางรถและทางเรือ ในการลำเลียงชาวบ้านที่ยังอาศัยอยู่ในย่านน้ำท่วมระดับน้อยถึงระดับกลาง เพื่อออกไปซื้อหาอาหาร ในขณะเดียวกัน ร้านค้าที่ยังเปิดให้บริการก็ควรดูแลในเรื่องการจำกัดสินค้าให้กับผู้ที่มาซื้อ ซึ่งทุกร้านควรเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน โดยให้รัฐบาลหรือหน่วยงานอิสระเป็นผู้กำหนดวิธีการ และคอยควบคุมดูแล หากมีการร้องทุกข์ ก็ควรมีการตรวจสอบตามสมควร

ฟรอสต์แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกได้จัดทำโมเดลจำลองการกักตุนเสบียงของคนกรุงเทพฯ โดยยกการสมมุติจากหนึ่งร้านค้า ซึ่งมีปริมาณเสบียง 100 ชุด แต่ละชุดสำหรับ 1 คนใช้บริโภค ต่อ 1 วัน และตอบสนองอุปสงค์ (demand) ที่ 100% ใน 100 คน จากสมมุติฐานนี้ แตกออกเป็น 3 กรณี (ดูภาพโมเดลประกอบ) คือ

กรณีที่หนึ่ง หากผู้ซื้อทุกคนพร้อมใจกันสำรองเสบียงเป็นระยะเวลา 2 วัน ทางร้านค้าจะมีความสามารถรองรับผู้ซื้อได้ 50 คน หรือคิดเป็น 50% ของอุปสงค์ ซึ่งทางร้านจะต้องเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานเป็น 2 เท่า เพื่อให้ตอบสนองความต้องการได้ครบ 100% การขาดแคลนเสบียงในกรณีนี้ อาจเกิดขึ้นบ้างเป็นเวลา 2-5 วัน ขึ้นอยู่กับกระบวนการจัดการของแต่ละผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ดี เนื่องจากอุทกภัยได้ทำให้เส้นทางการขนส่งบางเส้นถูกตัดขาดหรือติดขัด ฉะนั้นภาวะขาดแคลนอาจมีได้ถึง 10 วัน

กรณีที่สอง หากผู้ซื้อทุกคนพร้อมใจกันสำรองเสบียงเป็นระยะเวลา 10 วัน ทางร้านค้าจะมีความสามารถรองรับผู้ซื้อได้ 10 คน หรือคิดเป็น 10% ของอุปสงค์ ซึ่งการเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานให้มากขึ้นเป็น 10 เท่านั้นถือเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกี่ยวข้องกับการวางแผนการผลิต ย่อมต้องใช้เวลาพอสมควร เพื่อให้ตอบสนองความต้องการได้ครบ 100% การขาดแคลนเสบียงในกรณีนี้ จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เป็นช่วงระยะเวลา 10-15 วัน อย่างไรก็ดี เนื่องจากอุทกภัยได้ทำให้เส้นทางการขนส่งบางเส้นถูกตัดขาดหรือติดขัด ฉะนั้นภาวะขาดแคลนอาจมีได้ถึง 30 วัน หรือ 1 เดือน

กรณีสุดท้าย ถือเป็นกรณีเลวร้ายที่สุด แต่ในความเป็นจริงได้เกิดขึ้นแล้วในหลายแห่ง กล่าวคือ หากผู้ซื้อทุกคนพร้อมใจกันสำรองเสบียงเป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ทางร้านค้าจะมีความสามารถรองรับผู้ซื้อได้เพียง 3 คน หรือคิดเป็น 3.3% ของอุปสงค์ และต้องเพิ่มขีดความสามารถให้มากขึ้น อย่างต่ำเป็น 30 เท่าของที่มีอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นสภาวะขาดแคลนอย่างหนักจะเกิดขึ้นแน่นอน เป็นระยะเวลาขั้นต่ำ 1 เดือน หรือมากกว่า อย่างไรก็ดี เนื่องจากอุทกภัยได้ทำให้เส้นทางการขนส่งบางเส้นถูกตัดขาดหรือติดขัด ฉะนั้นภาวะขาดแคลนอาจมีได้ถึง 3 เดือน

“ในภาวะเช่นนี้ รัฐบาลไม่ควรนิ่งดูดาย หรือ ใช้วิธีการบริหารจัดการแบบ Reactive เหมือนที่เป็นมา โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ รัฐบาลสามารถใช้วิธี Proactive ได้ อย่างเช่นกรณีการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นเรื่องของการจัดการความสมดุลย์ของอุปสงค์และอุปทาน จึงควรดำเนินการอย่างจริงจัง โดยใช้แนวทางจากการร่วมมือของทุกฝ่าย ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยไม่มีการแบ่งมาตรฐาน เพื่อความเท่าเทียมและความอยู่รอดของทุกคน” ดร. มนธ์สินีกล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๒ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีงูเล็ก ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท
๑๗:๐๐ IMPACT เผยปี 68 ข่าวดี! โครงการ Sky Entrance รถไฟฟ้าสายสีชมพูมาตามนัด หนุนทราฟฟิคแน่น - จับมือพาร์ทเนอร์
๑๗:๕๒ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สนับสนุนโครงการ กู้วิกฤตและอนุรักษ์พะยูน ครั้งที่ 2
๑๗:๕๘ แสนสิริ เจ้าตลาดคอนโดแคมปัส อวดโฉม ดีคอนโด วิวิด รังสิต คอนโดใหม่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ
๑๖:๔๓ เอ็นไอเอ - สสส. ดึงนิวเจน สรรค์สร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพ ในแคมเปญ The Health Promotion INNOVATION PLAYGROUND
๑๗:๕๘ กรมวิทย์ฯ บริการ เร่งพัฒนาระบบ e-Learning ยกระดับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
๑๖:๕๘ เขตจตุจักรกวดขันคนไร้บ้านเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
๑๗:๑๗ เขตพระนครประสานกรมเจ้าท่า-เอกชน เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเรือสุพรรณเดิม
๑๗:๔๐ กทม. กำชับเจ้าของอาคารตรวจสอบโครงสร้างบันไดเลื่อน เพิ่มความปลอดภัยประชาชน
๑๖:๓๗ แลกเก่าเพื่อโลกใหม่ ช้อปคุ้ม พร้อมลดหย่อนภาษี! 'เปลี่ยนของเก่าเป็นความคุ้ม' ผ่าน Easy E-Receipt ได้ที่โฮมโปร เมกาโฮม