ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2554 คณะกรรมาธิการยุโรปได้แจ้งต่อ WTO ขอแก้ไข the Regulation EC 1907/2006 ภาคผนวก 17 มีผลทำให้สาร DMF ถูกห้ามใช้เป็นการถาวร อย่างไรก็ดี EU กำหนดปริมาณสาร DMF ให้มีในส่วนประกอบสินค้าได้ไม่เกิน 0.1 mg/kg ทั้งนี้ EU เห็นว่าไม่จำเป็นต้องกำหนดช่วง Transition Period เนื่องจากได้ห้ามใช้สารดังกล่าวเป็นการชั่วคราวมาตั้งแต่ปี 2552 แล้ว
ในปี 2554 (ม.ค.-ก.ย.) ไทยส่งออกสินค้าหนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอกและหนังอัดไป EU มูลค่า 1,034 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2553 ร้อยละ 14 ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2555 เป็นต้นไป สินค้าที่ส่งออกไป EU โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องหนัง ผู้ประกอบการไทยไม่ควรใช้สาร DMF เพื่อป้องกันเชื้อราในสินค้ากลุ่มดังกล่าว รวมทั้งสินค้าอุปโภคอื่นๆ ด้วย