นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดช่วงที่เกิดอุทกภัย ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานของคนไทย ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ในทุกรูปแบบ โดยนอกเหนือจากการดูแลด้านความมั่นคงทางพลังงาน โดยติดตามตรวจสอบสถานการณ์พลังงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศจะมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอแล้ว ยังร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ภายในกลุ่ม และพนักงานที่มีจิตอาสา ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย โดยแบ่งการดำเนินโครงการช่วยเหลือออกเป็น 3 ระยะ เริ่มจากการบรรเทาความเดือดร้อนและการป้องกันช่วยเหลือในระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 ซึ่งดำเนินการแล้วรวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานศูนย์ “กลุ่ม ปตท.รวมพลังไทย ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะที่ 3 ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบสูงและน้ำเริ่มลดแล้ว โดยได้เปิดศูนย์ฟื้นฟูที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นแห่งแรก ให้บริการในช่วงวันที่ 3 — 8 พ.ย. 54 ที่จังหวัดนครสวรรค์เป็นลำดับที่สองระหว่างวันที่ 6-12 พ.ย.54 และหลังจากนี้ก็จะทยอยเปิดศูนย์ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ต่อไป โดยมีกิจกรรมให้บริการที่จำเป็น อาทิ การตรวจซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบเครื่องยนต์ที่ลุยน้ำ (Engine Tune Up) ตรวจสอบและเปลี่ยนสายถังก๊าซหุงต้ม จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นและก๊าซหุงต้มในราคาพิเศษ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ฯลฯ
นายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานดำเนินงานศูนย์ “กลุ่ม ปตท.รวมพลังไทย ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม” จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า โครงการ “กลุ่ม ปตท.รวมพลังไทย ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม” เป็นความตั้งใจของ กลุ่ม ปตท. และพนักงานที่มีจิตอาสาของบริษัทฯ และคลังปิโตรเลียมนครสวรรค์ ที่ต้องการเห็นสถานที่สำคัญของจังหวัดต่างๆ กลับมาอยู่ในสภาพที่ดีดังเดิมหลังน้ำลด โดย ดำเนินกิจกรรม 4 ด้าน คือ 1. ด้านสุขอนามัย ผ่านโครงการบ้านสะอาดหลังน้ำลด ซึ่งดำเนินการ โครงการ “ฟื้นฟูอุทยานสวรรค์” ร่วมกับเทศบาลนครสวรรค์ ด้วยการฉีดน้ำล้างพื้นถนน ทำความสะอาดรอบสวนสุขภาพ ล้างสนามกีฬาอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกาย และ โครงการ EM Ball เพื่อนำไปบำบัดน้ำเสียในพื้นที่สำคัญ เช่น อุทยานสวรรค์ โรงพยาบาล รวมทั้งแจกจ่ายให้กับประชาชน 2. ด้านสาธารณสุข ผ่านโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ตรวจสุขภาพ แจกเวชภัณฑ์และยาสามัญประจำบ้าน 3. ด้านที่อยู่อาศัย ผ่านโครงการตรวจซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบเครื่องยนต์ที่ลุยน้ำ (Engine Tune Up) และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และ 4. ด้านฟื้นฟูอาชีพ ผ่านโครงการการเกษตร แจกเมล็ดพันธุ์พืช มอบอุปกรณ์เครื่องมือทำประมง และแจกจ่ายพันธุ์ปลา เป็นต้น