นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากภาวะวิกฤติของมหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้เกิดความเสียหาย เป็นอย่ามากในหลายพื้นที่ของประเทศไทย กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ล่าสุดที่ได้รับผลกระทบนี้ ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร่งด่วนทุกพื้นที่ รัฐบาลดำเนินการ ในการช่วยเหลือคือ ๑.เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งความเดือดร้อนจากมหาอุทกภัยผ่านช่องทางสายด่วน ๑๑๑๑ กด ๕ ๒. เปิดโรงครัวรัฐบาลขั้นในพื้นที่ต่างๆ ที่ไม่สามารถจัดหาอาหารสำหรับตนเองและครอบครัวได้ ๓. นโยบายเร่งด่วน “ครัว ๑๘ เขต ๑๘ จังหวัดคู่แฝด” สำหรับเขตบางแคแห่งนี้ ให้การช่วยเหลือโดยจังหวัดอุดรธานี
นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้จัดตั้งโรงครัวรัฐบาลในจุดพื้นที่เขตบางแค โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ จัดทำอาหารกล่องและน้ำดื่มสำหรับแจกจ่ายประชาชน วันละ ๒มื้อ คือมื้อกลางวันและมื้อเย็น จำนวน ๓๐,๐๐๐ กล่องโดยมอบหมายสถานสงเคราะห์ในสังกัด จำนวน ๖ แห่ง ได้แก่ ๑.สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ๒.สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งบ้านเมตตา จังหวัดนครราชสีมา ๓.สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งกุ่มสะแก จังหวัดเพชรบุรี ๔.สถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี จังหวัดสระบุรี ๕.สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งทับกวาง จังหวัดสระบุรี ๖.ศูนย์พัฒนาอาชีพคนพิการ จังหวัดนนทบุรี นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการตำรวจนครบาล ๙ ดำเนินการจัดทำอาหารกล่อง จำนวน ๒๐,๐๐๐ กล่อง รวมทั้งสิ้น ๕๐,๐๐๐ กล่องพร้อมน้ำดื่ม ซึ่งกระทรวงฯ ได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด
สำหรับการแจกจ่ายได้รับการสนับสนุนจากสถานีตำรวจนครบาลในเขตของกองบัคับการตำรวจนครบาล ๙ ทั้ง ๑๐ แห่งได้แก่ สถานีตำรวจนครบาลบางบอน หลักสอง ท่าข้าม เทียนทะเล บางขุนเทียน เพชรเกษม ภาษีเจริญ หนองค้างพลู หนองแขม และแสมดำ ดำเนินการแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่รับผิดชอบจำนวน ๒๕๖ ชุมชน
นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้ทุ่มเทการทำงานเพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ที่ผ่านมาเกือบ ๒ เดือน ถือว่าเป็นการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย แต่รัฐบาลขอยืนยันว่าจะยืนหยัดต่อสุ้กับวิกฤติการณ์ในครั้งนี้ร่วมกับประชาชนอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุข โดยเร็ววัน