นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรุงศรีกรุ๊ป เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องได้ส่งผลกระทบแก่ประชาชนทั่วไปและสร้างความไม่แน่นอนด้านธุรกิจต่างๆ อย่างไรก็ตาม กรุงศรีกรุ๊ปได้พยายามดำเนินการอย่างดีที่สุดและให้การดูแลพนักงานเราเป็นอย่างดีเพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานของเราปลอดภัยและสามารถให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทุกคนอย่างต่อเนื่อง
“การเตรียมความพร้อมและการปรับตัวที่ดีดังกล่าวพิสูจน์ได้จากสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสำนักงานใหญ่ของบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิสเซส หรือ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ บริษัทรับจำนำทะเบียนรถในเครือกรุงศรี ซึ่งตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต และได้รับผลกระทบด้านกายภาพอย่างมากจากน้ำที่ท่วมสูงซึ่งทำให้พนักงานไม่สามารถเข้าปฎิบัติหน้าที่ภายในสำนักงานได้ แต่ด้วยความพร้อมและการปรับตัวตามแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan) รวมทั้งด้าน Back-Up Site ทำให้บริษัทยังคงสามารถให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยความรวดเร็วตามปกติ เช่นเดียวกับสาขาของธนาคารที่ได้รับผลกระทบยังคงเปิดให้บริการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ด้วยการย้ายสถานที่ปฏิบัติงานไปยังพื้นที่ปลอดภัย สิ่งสำคัญที่สุดที่เรายึดถือคือเราต้องมั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกคนจะได้รับบริการและสาขาของเราที่ได้รับผลกระทบสามารถกลับมาดำเนินการตามปกติโดยเร็วที่สุด” นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้ช่องทางบริการอื่นๆ ซึ่งกรุงศรียังคงอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ นอกเหนือจากสาขา อาทิ ช่องทางอินเตอร์เน็ต สมาร์ทโฟนและตู้เอทีเอ็ม ซึ่งทางธนาคารได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สำรองเงินในตู้เอทีเอ็ม และจัดรถเอทีเอ็มเคลื่อนที่จำนวน 22 คัน ออกให้บริการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย
นอกจากนี้ กรุงศรียังได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับเพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกค้าและผู้ประสบภัยทุกคน โดยได้ขยายมาตรการความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ขึ้นอยู่กับระดับความเสียหายและผลกระทบต่อทรัพย์สิน มาตรการช่วยเหลือประกอบด้วย ลูกค้าสินเชื่อบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยาให้ความช่วยเหลือด้วยมาตรการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลานานสูงสุด 3 เดือน และเพิ่มมาตรการผ่อนชำระดอกเบี้ยอย่างเดียวนานสูงสุด 6 เดือน หรือลดค่างวดนานสูงสุด 9 เดือน สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ธนาคารกรุงศรีอยุธยาให้ความช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อด้วยมาตรการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลานานสูงสุด 3 เดือน และเพิ่มมาตรการผ่อนชำระดอกเบี้ยอย่างเดียวนานสูงสุด 6 เดือน หรือลดค่างวดนานสูงสุด 9 เดือน สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรง นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าเดิมที่ต้องการเพียงสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมบ้าน ธนาคารมีโปรแกรมสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยโดยให้วงเงินเพิ่มสูงสุดไม่เกิน 90% ของมูลค่าหลักประกัน พร้อมเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ MLR ลบ 2% ใน 5 ปีแรก หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ย MLR ตลอดอายุสัญญา ลูกค้าบัตรเครดิตและบัตรผ่อนชำระในเครือกรุงศรี ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรงอันเนื่องมาจากมีที่พักอาศํยอยู่ในพื้นที่ประสบภัย นายจ้างและสถานที่ทำงานไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติและส่งกระทบต่อรายได้ของลูกค้า มาตรการฟื้นฟูและเยียวยาประกอบด้วยการยกเว้นค่าติดตามหนี้ พักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลานานสูงสุด 2 เดือน หรือเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ - กรุงศรี ออโต้ บริษัทได้ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเบื้องต้นคือ ยกเว้นค่าธรรมเนียมค่าปรับกรณีชำระล่าช้า การพักชำระค่างวดเป็นเวลาสูงสุด 6 เดือน และปรับลดค่างวดโดยการขยายระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 96 งวด แล้วแต่กรณี- ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ บริษัทได้ทำการยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมการชำระล่าช้า ค่าธรรมเนียมจากการทวงถาม และลูกค้าที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถชำระค่างวดได้จะได้รับการพิจารณาขยายเวลาการชำระหนี้ แล้วแต่กรณี ตามความเหมาะสมและศักยภาพของลูกค้า
ขณะเดียวกันกรุงศรีได้ให้ความสำคัญและดูแลพนักงานทุกคนเป็นอย่างดีเช่นกัน โดยปัจจุบันภาวะน้ำท่วมได้ส่งผลกระทบต่อพนักงานกรุงศรีแล้วจำนวน 29% ของพนักงานทั้งหมดซึ่งทางกรุงศรีได้ให้เงินช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะกิจโดยทันทีจำนวนคนละ 10,000 บาท และเงินช่วยเหลือเพื่อซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยตามความเสียหายที่เกิดขึ้นในวงเงิน 50,000 บาท รวมทั้งเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยระยะยาว 200,000 บาทอีกด้วย
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรการความช่วยเหลือและการเดินหน้าให้บริการอย่างเต็มที่ของเราชาวกรุงศรีจะช่วยให้ลูกค้าทุกคนสามารถฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้ และสามารถกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด” นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าวในที่สุด
ลูกค้าและผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมสามารถติดต่อสอบถามข้อมูล รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือได้ที่ Krungsri Call Center 1572 ตลอด 24 ชั่วโมง
เกี่ยวกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
บมจ. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 ปัจจุบันเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย เป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรแก่ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ผ่านเครือข่ายสาขาธนาคารจำนวน 583 สาขาและช่องทางจำหน่ายกว่า 11,000 แห่งทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 จีอี แคปปิตอล ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำเพื่อรายย่อยชั้นนำของโลกได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยปัจจุบัน จีอี แคปปิตอล และกลุ่มรัตนรักษ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารในสัดส่วนร้อยละ 33 และร้อยละ 25 ตามลำดับ ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ธนาคาร www.krungsri.com
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
กลุ่มงานสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์
โทรศัพท์ 02 296 3795, 02 296 2443-4
โทรสาร 02 683 1271
อีเมล์ [email protected]