นางสาว ริษิณี สาริกบุตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและประเมินมูลค่าทรัพย์สิน บริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะอุทกภัยในกรุงเทพทำให้คนกรุงส่วนใหญ่อพยพไปเมืองตากอากาศริมทะเลทำให้ชี้ชัดว่าความนิยมซื้อบ้านหลังที่สองในเมืองแถบชายทะเล เช่น พัทยา หัวหินและชะอำจะสูงขึ้น การอพยพหนีจากภาวะอุทกภัยของคนกรุงครั้งนี้ทำให้ประชาการในพัทยานั้นหนาแน่นมากขึ้น รถที่เดินทางอยู่ในพัทยาส่วนมากเป็นป้านทะเบียนมาจากกรุงเทพ โดยเฉพาะในหาดจอมเทียน โรงแรมส่วนใหญ่ เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ถูกจองเต็มหมดโดยคนกรุงเทพ
ก่อนหน้าที่จะมีเหตุอุทกภัย แนวโน้มของคนกรุงที่จะซื้อคอนโดมิเนียมในพัทยาก็มีอยู่มากพอสมควร ในสองปีมานี้คนไทยเป็นกลุ่มที่ซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ในทะเลทางภาคตะวันออกมากที่สุด อสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในพัทยาหาผู้ซื้อได้ไม่ยาก
ซัพพลายคอนโดมิเนียมใหม่ในพัทยาถึงไตรมาส 3 ปีนี้มีทั้งหมด 10,547 ยูนิตจากทั้งหมด 24 โครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ของจำนวนซัพพลายใหม่อยู่ที่บริเวณจอมเทียน คิดเป็น 69% หรือ 6,331 ยูนิต คอนโดมิเนียมวิวทะเลคิดเป็น 60% ของซัพพลายใหม่ ซึ่ง 66% อยู่บริเวณจอมเทียน ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่า ยังมีที่เหลือในบริเวณจอมเทียนอีกมากที่จะใช้พัฒนาโครงการต่างๆเมื่อเทียบกับบริเวณอื่นในพัทยา นอกจากนี้โครงการตึกสูงต่างๆสามารถสร้างได้บริเวณจอมเทียนอีกด้วย
ดีมานด์ของคอนโดมิเนียมวิวทะเลมีสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณจอมเทียนที่ราคาขายค่อนข้างต่ำซึ่งมีดีมานด์ประมาณ 60% ตามด้วยพัทยาเหนือที่ 48% ต้นทุนที่สูงที่สุดในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมคือ ค่าที่ดินซึ่งแพงมากในบริเวณพัทยาเหนือและค่อนข้างหายากในการพัฒนาโครงการในปัจจุบัน ราคาขายของคอนโดมิเนียมวิวทะเลในพัทยาเหนืออยู่ที่ประมาณ 104,000 —150,000 บาทต่อตรม. เทียบกับ 75,000-120,000 บาทต่อตรม.ในบริเวณจอมเทียน
ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โครงการคอนโดมิเนียมริมทะเล 2 โครงการเปิดตัวในบริเวณจอมเทียน และขายไปได้แล้วประมาณ 60% ซึ่งเป็นผู้ซื้อคนไทยประมาณ 80% สำหรับผู้ซื้อคนไทยในตลาดพัทยา ราคาที่อยู่ในระดับประมาณ 3-7 ล้านบาทยังอยู่ในระดับราคาที่พอซื้อหาได้และมีความต้องการสูงส่วนมากจะเป็นห้องที่มี 1-2 ห้องนอน ประมาณ 35-90 ตรม. ส่วนยูนิตที่มีขนาดใหญ่กว่านี้จะเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติเพื่ออยู่อาศัย ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพและหาคอนโดมิเนียมพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง ขนาดยูนิตที่ดีที่สุดของผู้ซื้อชาวไทยเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองคือคอนโด 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 55 ตรม. แต่สำหรับผู้ซื้อเพื่อการลงทุนจะมองหายูนิต 1 ห้องนอนที่มีขนาดเล็กกว่านี้ประมาณ 39 ตรม. แต่ไม่ว่าผู้ซื้อจะมองหาคอนโดลักษณะใด สำหรับพัทยาก็มีหลากหลายแบบให้เลือกที่เปิดตัวในปีนี้ ขณะที่จะเริ่มก่อสร้างในต้นปีหน้าและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2557
จากผลวิจัยของบริษัท ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย คาดว่าจะมีจำนวนซัพพลายเพิ่มขึ้นอย่างมากในบริเวณจอมเทียน อย่างน้อย 4,000 ยูนิตที่จะเปิดตัวในเดือนหน้าและปี 2555 ในทางกลับกัน จำนวนซัพพลายเพิ่มติมของคอนโดในบริเวณพัทยาเหนือจะมีน้อยกว่า 1,000 ยูนิต คุณริษิณี กล่าวว่า เราค่อนข้างมั่นใจว่า ราคาขายของคอนโดในพัทยาเหนือจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจาก ความต้องการเริ่มมีมากกว่าซัพพลาย อย่างไรก็ตามคนไทยเป็นผู้ซื้อหลักของคอนโดมิเนียมในพัทยาซึ่งส่วนมากความต้องการจะอยู่ที่พัทยาเหนือเพราะมีความสงบและยังอยู่ใกล้สาธารณูปโภคและความสะดวกสบายต่างๆ