ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ “บ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์” เป็นระดับ “A+” จาก “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable”

ศุกร์ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๐๑๑ ๑๐:๐๐
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท โฮม โปรดักส์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A+” จาก “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท ตลอดจนฐานะทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้น และการมีสถานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศ ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่างผู้ค้าปลีกสมัยใหม่ที่จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและเศรษฐกิจในประเทศที่คาดว่าจะชะลอตัวซึ่งเป็นผลมาจากอุทกภัยที่กินพื้นที่ในบริเวณกว้างในเขตภาคกลางของประเทศ ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” นั้นสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลประกอบการและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ต่อไปโดยที่ยังคงอัตราการก่อหนี้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในขณะเดียวกับที่มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ เป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าและบริการเพื่อที่อยู่อาศัยแบบครบวงจรภายใต้ชื่อ “โฮมโปร” ผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทในปัจจุบันประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (30.07%) และบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (19.89%) บริษัทเป็นผู้จำหน่ายสินค้าและบริการเกี่ยวกับบ้านที่ครบวงจร อาทิ อุปกรณ์ปรับปรุงและซ่อมแซมบ้าน อุปกรณ์ห้องน้ำและเครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องใช้ในครัว และเครื่องตกแต่งบ้าน บริษัทประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจด้วยการเปิดสาขาใหม่โดยเฉลี่ย 3 แห่งต่อปีมาตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2538 ทั้งนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมานิยมศูนย์ค้าปลีกสมัยใหม่มีผลดีต่อการขยายสาขาของบริษัทณ เดือนตุลาคม 2554 บริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 44 แห่ง โดยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 19 แห่ง และในต่างจังหวัดอีก 25 แห่ง เมื่อรวมทุกสาขาแล้วบริษัทมีพื้นที่ขายทั้งหมดประมาณ 290,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) และพื้นที่

ค้าปลีกให้เช่าอีก 81,702 ตร.ม. ด้วยการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทมีฐานในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่แข็งแกร่งกระจายอยู่ในหัวเมืองใหญ่ ๆ นอกจากนี้ แผนการขยายสาขาของบริษัทในช่วง 2-3 ปีข้างหน้ายังคงมุ่งเน้นจังหวัดสำคัญ ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงเมืองสำคัญต่าง ๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยในปี 2554 บริษัทเปิดสาขาในต่างจังหวัดรวม 4 แห่ง

ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 20,329 ล้านบาทในปี 2552 เป็น 24,073 ล้านบาทในปี 2553ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 20,672 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 19.54% จากช่วงเดียวกันของปี 2553 ทั้งนี้ การเติบโตของยอดขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 เป็นผลจากการขยายสาขา ตลอดจนการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการปรับปรุงรายการสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทที่เพิ่มขึ้นจาก 25.01% ในปี 2553 เป็น 25.53% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากสินค้าที่เป็นตราสัญลักษณ์เฉพาะของบริษัท โดยสัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 15.97% ของยอดขายในปี 2553 เป็น 17.90% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554

ทริสเรทติ้งกล่าวถึงฐานะการเงินของบริษัทว่ายังคงอยู่ในเกณฑ์ดี โดยบริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 2,046 ล้านบาทในปี 2552 เป็น 2,644 ล้านบาทในปี 2553 และเป็น 2,241 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งของยอดขายและความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น บริษัทยังคงมีสภาพคล่องในระดับสูงจากการบริหารเงินสดที่มีประสิทธิภาพ เงินกู้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 2,742 ล้านบาทในปี 2553 เป็น 3,642 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2554 เนื่องจากบริษัทกู้ยืมมากขึ้นเพื่อลงทุนในการเปิดสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมยังคงแข็งแกร่งที่ระดับ 69.51% ในปี 2553 และ 47.23% (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554

ผลจากวิกฤตอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางของประเทศทำให้ศูนย์กระจายสินค้าและสาขาจำนวน 6 แห่งของบริษัทต้องปิดลงชั่วคราว ศูนย์กระจายสินค้าที่อยู่ในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2554 โดยอาคารศูนย์กระจายสินค้าและสินค้าบางส่วนของบริษัทถูกน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้คาดว่าจะได้รับการคุ้มครองเป็นส่วนใหญ่จากการทำกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัท ทั้งนี้ สาขาทั้งหมดของบริษัทยังไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และบริษัทได้ย้ายศูนย์กระจายสินค้าไปยังจังหวัดชลบุรีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของร้านสาขาต่าง ๆ วิกฤตอุทกภัยในครั้งนี้จะสร้างความเสียหายต่อผลประกอบการของบริษัทในช่วงที่เกิดน้ำท่วมเนื่องจากปัญหาด้านการขนส่งและการขาดแคลนสินค้าที่ใช้สำหรับป้องกันน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ในระยะอันใกล้ ความต้องการทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านจะมีเพิ่มขึ้นหลังจากระดับน้ำเริ่มลดลงซึ่งจะช่วยเสริมสร้างผลประกอบการของบริษัทให้ดีขึ้นในเดือนต่อๆ ไป ทริสเรทติ้งกล่าว

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HMPRO)

อันดับเครดิตองค์กร: เพิ่มเป็น A+ จาก A

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

HMPRO11NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 630 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 เพิ่มเป็น A+ จาก A

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO