ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

จันทร์ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๑ ๐๙:๔๖
- ทองปรับฐานครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์

- SPDR ถือทองเพิ่มขึ้น 3.63 ตัน

- คาดหนี้ยุโรปยังกดดันทองปรับฐานต่อ

ราคาทองคำปรับฐานลงเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากตลาดกังวลประเด็นปัญหาหนี้ของประเทศในกลุ่มยุโรปจนทำให้มีการปรับลดความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินต่างๆในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และนักลงทุนต่างต้องการถือครองเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยจนมีผลให้ราคาทองและราคาโลหะเงินปรับฐานลง อย่างไรก็ตามในช่วงที่ราคาทองปรับฐานนั้นยังคงมีความต้องการซื้อทองกลับเข้ามา ซึ่งแม้ว่าจะไม่สามารถทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนบางส่วนยังคงต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความกังวลประเด็นปัญหาหนี้กดดันการลงทุน ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองจึงยังมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นต่อได้แต่ในระยะสั้นยังคงจะถูกการแข็งค่าของดอลลาร์กดดันให้ราคาปรับขึ้นได้ในกรอบจำกัด ส่วนการเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้ยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นลงตามรายงานข่าวต่างๆโดยเฉพาะในกลุ่มยุโรป นักลงทุนยังไม่มั่นใจว่ามาตรการช่วยเหลือจะเพียงพอสำหรับประเทศสมาชิกในยูโรโซน รวมทั้งการหาข้อตกลงของ 2 พรรคการเมืองในสหรัฐจะหาข้อสรุปเรื่องการลดรายจ่ายลงได้ในสัปดาห์นี้ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำและโลหะเงินจึงอาจจะยังปรับฐานลงต่อหรือหากมีการดีดตัวกลับก็จะมีแรงขายกลับออกมาจนการฟื้นตัวของราคาขาดความต่อเนื่อง ส่วนภาพเทคนิคของทั้งราคาทองคำและโลหะเงินซึ่งปรับฐานลงแรงในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน จนทำให้ภาพการเคลื่อนไหวของราคาโลหะทั้ง 2 ชนิด มีสัญญาณขายกลับออกมา โดยราคาโลหะเงินหากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 31 ดอลลาร์ คาดว่าจะมีการปรับฐานลงไปยังแนวรับบริเวณ 30 และ 28 ดอลลาร์ ต่อไป ส่วนแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 33 และ 35 ดอลลาร์ ซึ่งที่แนวต้านหลังคาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามากจนราคาโลหะเงินคงยังจะไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ ส่วนราคาทองคำมีแนวรับสำหรับซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 1,700-1,710 และ 1,680 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,730 และ 1,745 ดอลลาร์ ตามลำดับ

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.54

Close chg. Support Resistance

25,700 -330 25,500/25,350 26,100/26200

ราคาทองดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นๆแต่ก็ไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,730-1,735 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มปรับฐาน โดยคาดว่าราคายังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อโดยมีแนวรับสำหรับเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรอยู่ที่บริเวณ 1,705-1,710 ดอลลาร์ และมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,700 ดอลลาร์ ส่วนกรณีที่ราคาพลิกฟื้นตัวกลับคาดว่าที่แนวต้านบริเวณ 1,735 ดอลลาร์ ยังคงคาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมาจนราคาเริ่มปรับฐานลง จึงยังสามารถเลือกเปิดสถานะขายที่บริเวณดังกล่าว โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 1,745 ดอลลาร์

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนธ.ค.54

Close chg. Support Resistance

1,000 -55 990/975 1,010/1,030

ราคาโลหะเงินดีดตัวขึ้นจากแนวรับระยะสั้นบริเวณ 31 ดอลลาร์ แต่ยังต้องระวังว่าจะเป็นเพียงการดีดตัวทางเทคนิคและอาจมีแรงขายกลับออกมาอีก ดังนั้นการเก็งกำไรฝั่งซื้อยังมีความเสี่ยงที่จะถือครองสถานะ หากราคาปรับฐานลงไปต่ำกว่า 31 ดอลลาร์ หรือฟื้นตัวเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 33 ดอลลาร์ อาจเลือกเก็งกำไรฝั่งขายจากการปรับฐานที่คาดว่าจะมีกลับออกมา โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 33.50 ดอลลาร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version