ไทยพาณิชย์ประเมิน หลังน้ำลดเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ กว่า 4% ในปี 2555

จันทร์ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๑ ๑๕:๑๑
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์แถลงข่าวประเมินผลกระทบจากวิกฤติอุทกภัยต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปีนี้และภาพรวมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2555 โดย ดร. สุทธาภา อมรวิวัฒน์ Chief Economist และ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “เศรษฐกิจไทยในปี 2554 จะขยายตัวได้เพียง 1.8% เท่านั้น ซึ่งลดลงจากการประมาณการก่อนเกิดวิกฤตน้ำท่วมค่อนข้างมาก สาเหตุหลักเกิดจากการหยุดการผลิตของนิคมอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อภาคการส่งออกของไทย ซึ่งจะกระทบกับการผลิตสินค้าต้นน้ำและปลายน้ำที่เกี่ยวข้องในนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าวซึ่งอยู่ในฤดูเก็บเกี่ยว รวมถึงผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้เศรษฐกิจไตรมาส 4 น่าจะหดตัวประมาณ 4% เทียบกับไตรมาส 3”

ดร. สุทธาภา กล่าวต่อไปเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2555 ว่า “เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในปี 2555 ซึ่งน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 4.5% โดยในช่วงครึ่งแรกของปีจะมีแรงส่งจากการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐเพื่อเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนซึ่งจะส่งผลทำให้มีการกลับเข้ามาลงทุนของภาคเอกชน (crowding in) รวมถึงการจ้างงานของภาคเอกชนเพื่อฟื้นฟูกำลังการผลิต โดยคาดว่าจะมีการนำเข้าสินค้าทุนจำนวนมากเพื่อทดแทนกำลังการผลิตที่เสียหายไป ทั้งนี้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อาจยังชะลอในช่วงแรกเนื่องจากยังต้องมีการประเมินความเสียหายและความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่น การขนส่ง น้ำประปา และไฟฟ้า ส่วนในช่วงครึ่งหลังของปีนั้นจะเป็นการขยายกำลังการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับ อุปสงค์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่โตขึ้น หากมองโดยรวมทั้งปีแล้วมูลค่าการส่งออกจะสามารถขยายตัวได้ประมาณ 11% ซึ่งนับว่าชะลอลงจากปี 2554 ที่การส่งออกน่าจะขยายตัวได้เกือบ 20%”

สำหรับเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดร. สุทธาภา มองว่า “ธนาคารแห่งประเทศไทย น่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจเอกชน แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงอยู่ในช่วงต้นปีต่อเนื่องมาจากปลายปี 2554 ที่มีปัญหาขาดแคลนสินค้า แต่ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุให้ธนาคารแห่งประเทศไทยกังวลนัก โดย EIC มองว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะค่อยๆ ลดลงเนื่องจากภาคการผลิตน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมากนัก ในขณะที่ค่าเงินบาทน่าจะอยู่ในระดับทรงตัว”

ปัจจัยเสี่ยงหลักๆ สองประการ ที่จะมีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2555 คือ การฟื้นฟูความมั่นใจของนักลงทุนโดยมาตรการภาครัฐ และปัญหาหนี้ในสหภาพยุโรป “มาตรการภาครัฐจะต้องเน้นการแก้ปัญหาการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากไม่สามารถทำได้จะมีผลเสียต่อการลงทุน เช่น ผู้ประกอบการอาจไม่กลับมาลงทุนเพราะไม่สามารถซื้อประกันภัยความเสียหายจากอุทกภัยได้ นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาคการคลังจะต้องสามารถกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภาคเอกชนเพื่อจะได้ไม่ทำให้สถานะการคลังของประเทศแย่ลง ส่วนปัญหาหนี้ในสหภาพยุโรปยังไม่น่าจะจบในเร็ววัน และอาจทำให้เกิดความผันผวนของเศรษฐกิจไทยได้ โดยสิ่งที่จะต้องจับตามองคือการลุกลามของปัญหาไปยังประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อย่าง อิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและการส่งออกของไทยอย่างมาก” ดร. สุทธาภา กล่าวสรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version