นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวในงานแถลงข่าวผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2554 ว่า “ผลการดำเนินงานของเอ็กโก กรุ๊ป อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 4,973.9 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องแล้ว 14 แห่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 1 แห่ง และการพัฒนาอีก 4 แห่ง”
สำหรับความคืบหน้าในโครงการลงทุนภายในประเทศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กหรือเอสพีพี ซึ่งประกอบด้วยโครงการ TJ Cogen, TP Cogen และ SK Cogen กำลังการผลิตติดตั้งรวม 375 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการรอลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement - PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และเตรียมงานก่อสร้าง
ขณะที่โครงการลพบุรี โซลาร์ ได้มีการเลื่อนกำหนดการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ในเฟสแรก จากเดือน พฤศจิกายน เป็นเดือนธันวาคม 2554 ณ ปัจจุบัน โครงการลพบุรี โซล่าร์ เริ่มเดินเครื่องทดสอบระบบแล้ว คาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเฟสสุดท้ายในเดือนมีนาคม ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม 1 เดือน
นายสหัส กล่าวถึง ความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการลงทุนในต่างประเทศ ว่า เอ็กโก กรุ๊ป อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าเคซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ประมาณ 500 เมกะวัตต์ รวมถึงพิจารณาการลงทุนในโครงการ IPP และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนโครงการพลังงานทดแทน มุ่งเน้นในภูมิภาคอาเซียนและพร้อมขยายออกไปในประเทศต่างๆในแถบภูมิภาคนี้อีกด้วย
นายสหัสยังได้เปิดเผยผลการดำเนินงานทางด้านการเงิน 9 เดือนของปี 2554 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 4,514 ล้านบาท ลดลง 2,073 ล้านบาท หรือร้อยละ 31 ทั้งนี้หากไม่คำนึงถึงผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,702 ล้านบาท ลดลง 1,363 ล้านบาท หรือร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553 สาเหตุหลักมาจากรายได้ค่าไฟฟ้าที่ลดลงของโรงไฟฟ้าไอพีพีในประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าระยอง โรงไฟฟ้าขนอม และโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ซึ่งเป็นไปตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
โดยปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีสินทรัพย์รวม จำนวน 71,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,179 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2553 โดยมีหนี้สินรวม จำนวน 14,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2553 จำนวน 2,402 ล้านบาทหรือร้อยละ 21 และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าคงเหลือ จำนวน 6,292 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2553 จำนวน 1,456 ล้านบาท ทั้งนี้ มีอัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็วอยู่ที่ 6.92 เท่า เทียบกับสิ้นปี 2553 ซึ่งเท่ากับ 5.59 เท่า ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เท่ากับ 0.25 เท่า สูงกว่าสิ้นปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 0.21 เท่า
“เอ็กโก กรุ๊ป เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานของปี 2554 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในการรักษาระดับกำไรไม่ต่ำกว่า 5,000 - 6,000 ล้านบาทระหว่างปี 2554 - 2558 ด้วยการบริหารจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ และการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนออกไปต่างประเทศมากขึ้น นอกเหนือจากภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตทั้งด้านรายได้ กำลังการผลิต และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ” นายสหัสกล่าวสรุปในตอนท้าย