ภายใต้การถือหุ้นของกลุ่มเมย์แบงก์จะช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของกิมเอ็งซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและมีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มนักลงทุนรายย่อย กลุ่มเมย์แบงก์จะช่วยสนับสนุนด้านฐานะการเงินและความมั่นคงของกิมเอ็งให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อันจะเห็นได้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้รับการเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว เป็น AA- จากเดิม A ซึ่งถือว่าเป็นอันดับเครดิตของบริษัทหลักทรัพย์ที่สูง และสามารถเทียบเท่ากับอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยบางแห่ง
กลุ่มเมย์แบงก์เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีธุรกิจหลัก คือธนาคารเมย์แบงก์ (Malayan Banking Berhad) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซียและเป็นธนาคารอันดับหนึ่งของประเทศและยังเป็นธนาคารใหญ่อันดับที่ 4 ในการจัดอันดับของธนาคารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 51 ปี มีเครือข่ายสาขามากมายในประเทศศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญต่างๆ อาทิ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยมีขนาดของสินทรัพย์รวม 136.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 ธนาคารเมย์แบงก์เป็นธนาคารที่เน้นกลุ่มลูกค้าสินเชื่อรายย่อยและธุรกิจขนาดใหญ่และมีความเชี่ยวชาญธุรกิจวาณิชธนกิจซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนธุรกิจด้านนี้ให้แก่บริษัทฯ ได้เป็นอย่างดีและจะมีความร่วมมือในธุรกิจด้านวาณิชธนกิจมากขึ้นในอนาคต
นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภายหลังการเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ นโยบายการให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยยังคงเหมือนเดิมโดยให้บริการผ่านสาขาต่างๆ ของบริษัทฯ รวม 44 สาขา ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดสาขาระยอง 2 ขึ้นอีก 1 แห่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริการแก่ลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น การเข้าถือหุ้นของบริษัทฯ โดยกลุ่มเมย์แบงก์ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสอดคล้องกับการรวมตัวของประเทศในกลุ่มอาเซียน ที่ต้องการผลักดันโครงการเชื่อมโยงระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ในกลุ่มภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Exchange Linkage) ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งรวมตัวกันเชื่อมโยงระบบการซื้อขายอิเลคทรอนิคส์ระหว่างกัน สร้างพันธมิตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดภูมิภาคอาเซียนให้มีความน่าสนใจและทำให้นักลงทุนจากต่างประเทศหันมาสนใจและเลือกลงทุนในแถบภูมิภาคอาเซียนมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทจดทะเบียนของประเทศที่มีผลการดำเนินงานดี มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามแนวทางที่ยอมรับในระดับสากล และมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องให้เป็นที่รู้จักและยอมรับต่อนักลงทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปี 2555 ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ มีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการได้ก่อนในไตรมาสแรก ดังนั้น การมีกลุ่มเมย์แบงก์จะช่วยเกื้อหนุนและเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทฯ ให้เข้าสู่โครงการอาเซียนลิงค์เกจได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ จึงมีความมั่นใจที่จะเปิดบริการและต้อนรับนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยในอนาคตบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทหลักทรัพย์อันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนต่อไป
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
โทร 0-2658-6300 ต่อ 5180, 7401 — 7402