น้องบี พูดคุยกับเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้มถึงแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้เธอก้าวสู่สนามกีฬาลูกเด้ง ก่อนเดินทางไปแข่งขันว่า “เมื่อสมัยเด็ก ๆ หนูเห็นพี่ๆ ที่อาศัยอยู่ละแวกบ้านเขาเล่นปิงปองกัน หนูก็อยากเล่นเป็นบ้าง พอมีโอกาสได้หัดเล่นที่โรงเรียนบ่อยๆ หนูก็ชอบปิงปองมากขึ้น จนหนูอยู่ชั้นป. 3 คุณครูเห็นว่าหนูเล่นปิงปองได้ดี จึงส่งหนูไปแข่งขันตามโปรแกรมต่างๆ ในนามของนักกีฬาโรงเรียน ซึ่งหนูก็พยายามเล่นอย่างเต็มที่จนสามารถคว้ารางวัลกลับมาได้มากมาย มีทั้งถ้วยรางวัลและเหรียญรางวัล ตอนนี้ที่บ้านหนูมีรางวัลต่างๆ ถูกจัดเรียงอยู่เต็มตู้เลยค่ะ”
เพราะปิงปองเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความไวและสมาธิเป็นพื้นฐานสำคัญในการเล่น และยังมีความสนุกในตัว พอเริ่มเล่นก็ทำให้บีอยากเล่นเก่งขึ้นเรื่อยๆ “จริงๆ แล้วหนูก็เล่นกีฬาประเภทอื่นเป็นเหมือนกัน เช่น ว่ายน้ำ แบดมินตัน แต่ก็แค่พอเล่นเป็น ไม่ได้จริงจัง หรือเอาดีอย่างกีฬาปิงปอง” บียังบอกอีกว่าการที่เธอเดินในเส้นทางนักกีฬาปิงปองสมัครเล่นและมาอยู่ ณ จุดนี้ได้ก็เพราะสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู เพราะสโมสรฯ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนานักกีฬาในสังกัดอย่างเข้มข้น สนับสนุนให้นักกีฬาได้เรียนรู้ในหลายรูปแบบ และเปิดโอกาสให้พวกเขาเหล่านี้ได้เห็นโลกกว้างกว่าที่เคย นอกจากนี้ สโมสรฯ ยังได้จัดกิจกรรมดี ๆ คือ “ค่ายติวเพิ่ม เติมพลัง” ซึ่งเป็นค่ายฝึกซ้อมปิงปองโดยโค้ชชาวจีนอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง จึงทำให้นักกีฬาในสังกัดมีโอกาสได้พัฒนาฝีมือและเทคนิคต่าง ๆ มากขึ้นจากโค้ชของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นจ้าวแห่งปิงปองโลก
ภายใต้โปรแกรมการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องที่เป็นระบบ ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นกับนักกีฬา ที่มีจุดแข็งและจุดอ่อนแตกต่างกันของ “ค่ายติวเพิ่ม..เติมพลัง” ทำให้บีได้เรียนรู้เทคนิคในการพัฒนาทักษะปิงปองด้านต่างๆ โดยตารางการฝึกซ้อมที่เข้มข้นและสม่ำเสมอของโค้ชจีนนั้น มีทั้งการเสริมพื้นฐานด้วยการวิ่งเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ตามด้วยการซ้อมตีสเต็ป และการเข้าฟิตเนสเพื่อเพิ่มกำลังและสร้างสมรรถภาพให้แก่ร่างกายทุกส่วน ทำให้บีรู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองชัดเจนขึ้น และสามารถพัฒนาตัวเองได้เร็ว โดยเฉพาะการเพิ่มความแม่นยำในการตีลูก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้บีมีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการสู้ศึกอิเหนาเกมส์หนนี้
“การได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในนักกีฬาเยาวชนทีมชาติในศึกซีเกมส์ ณ ประเทศอินโดนีเซียครั้งนี้ มาจาก การแข่งขันเพื่อคัดเลือกนักกีฬาจากแต่ละสโมสรเทเบิลเทนนิสในประเทศไทย ซึ่งมีการจัดลำดับผู้เล่นไว้ โดย ผู้เล่นที่อยู่ในลำดับ 1-10 ของแต่ละสโมสรจะมาแข่งขันกัน ซึ่งหนูเป็นตัวแทนคนเดียวของสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู ที่ผ่านเข้ารอบและได้ไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ร่วมกับตัวแทนของทีมอื่นๆ ในประเทศไทยอีกประมาณ 7 คน หนูดีใจมากที่ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ เพราะรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จไปอีกขั้นของชีวิต“ บีกล่าวอย่างภูมิใจ
การลงสนามสู้ศึกซีเกมส์ครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญของเส้นทางนักกีฬาเยาวชนทีมชาตินัดแรกของบี แม้ว่าเธอจะยังไม่สามารถกำชัยชนะมาสู่ประเทศไทยได้ในรอบนี้ แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าของชีวิตนักกีฬา ที่เธอภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดและเต็มกำลังความสามารถ โดยไม่ท้อต่อการเร่งพัฒนาฝีมือตนเอง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในเวทีระดับประเทศและภูมิภาคในครั้งต่อไป
“ถึงไม่ได้เหรียญกลับมา แต่หนูก็ได้มิตรภาพและประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ และไม่ว่าจะเลือกเล่นกีฬาประเภทไหนต่างก็มีประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นเราจึงควรใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการมาออกกำลังกายกันจะดีกว่า ซึ่งนอกจากจะทำให้เรามีร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่ชอบกีฬาเหมือนกัน นอกจากนี้ ยังได้ฝึกความอดทน และเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ขอเพียงมีความตั้งใจ หมั่นฝึกซ้อม ทำให้เต็มที่ และบอกตัวเองว่าต้องพยายามไปให้ถึงจุดหมายที่ตัวเองตั้งไว้ให้ได้ เท่านี้เราก็จะเป็นคนเก่งได้แล้วค่ะ” น้องบีฝากข้อคิดทิ้งท้ายให้กับเยาวชนทุกคนที่มีใจรักกีฬา หรือสนใจอยากที่จะเล่นปิงปองให้เก่ง
คงต้องติดตามกันต่อไปว่า น้องบีจะก้าวสู่เส้นทางแห่งกีฬาลูกเด้งได้ไกลแค่ไหน พวกเราก็คงจะร่วมส่งแรงใจเป็นกำลังใจให้น้องบี เยาวชนคนเก่ง สาวน้อยนักตบลูกเด้งของเราให้ไปเป็นดาวดวงเด่นให้ได้ สู้ สู้ นะ…