นายเอนก บุญหนุน รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้น แม้ว่าปัจจุบันในหลายพื้นที่สถานการณ์น้ำจะคลี่คลายไปแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีบางพื้นที่ที่ประสบปัญหาและพี่น้องประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านซึ่งมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก ซีพีเอฟจึงยืนหยัดดำเนินโครงการ “โรงครัวพระราชทาน” ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 4 จุด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดนครปฐม รวมทั้งที่กองทัพภาคที่ 1 เพื่อช่วยเหลือกำลังพลที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตลอดจนนำอาหารไปช่วยผู้ประสบภัยในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้โรงครัวจะทำการปรุงอาหารสดใหม่วันละ 3 มื้อเป็นประจำทุกวัน รวมทั้ง 4 จุดสามารถจัดข้าวกล้องได้ประมาณ 47,000 กล่องต่อวัน โดยทีมงานซีพีเอฟจิตอาสาร่วมกับกองทัพภาพที่ 1 นำอาหารเข้าแจกจ่ายให้ถึงมือประชาชนด้วยตนเอง รวมทั้งการมอบอาหารผ่านผู้นำชุมชน ตลอดจนการมอบผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือได้กระจายไปถึงผู้เดือดร้อนอย่างทั่วถึง
นายเอนก กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย บริษัทได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและต่อเนื่องมาตลอด โดยเฉพาะด้านอาหารซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ซีพีเอฟในฐานะผู้นำด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร จึงไม่นิ่งนอนใจในการเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วดังเช่นทุกครั้ง โดยการตั้งเต็นท์โรงครัวพระราชทาน ที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้จัดอาหารช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 14 จุดจังหวัดครอบคลุมทุกพื้นที่ประสบอุทกภัย จนถึงปัจจุบันได้ปรุงอาหารไปแล้วกว่า 2,600,000 กล่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 90 ล้านบาท ซีพีเอฟจะยังคงดำเนินโครงการโรงครัวพระราชทานต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ให้ความช่วยเหลือกรณีอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีนี้ไปแล้ว รวมทั้งสิ้นกว่า 200 ล้านบาท และจะยังคงเดินหน้าเคียงข้างชาวไทยในทุกๆวิกฤตการณ์
พรรณินี นันทพานิช ด้านสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ CPF
โทร. 0-2625-7344-5, 0-2631-0641 / E-mail [email protected]