นายปราณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา จากภาคเหนือ ภาคกลาง ไล่เรียงมาถึงพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้ประชาชนประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มสะอาด รวมถึงถูกตัดขาดจากสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งที่ผ่านมาทางรัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลระดมกำลังเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเต็มศักยภาพ โดยจัดส่งรถปรับปรุงคุณภาพน้ำเคลื่อนที่, ชุดปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาลให้ได้มาตรฐานองค์การอนามัยโลกภาคสนาม เข้าประจำการในพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อผลิตน้ำบาดาลน้ำดื่มสะอาดตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก รวมไปถึงการเปิดจุดบริการน้ำดื่มสะอาดกว่า 86 จุด ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ณ ปัจจุบันได้แจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดไปกว่า 4.7 ล้านลิตร
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลขอให้ประชาชนไว้วางใจกับความสะอาด ปลอดภัย และคุณภาพของน้ำบาดาล ที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลนำมาบริการให้ เพราะเป็นน้ำที่อยู่ในมาตรฐานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้เป็นน้ำดื่มสะอาดที่สามารถบริโภคได้ และทุกจุดจะมีรถตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาลมาตรฐานเคลื่อนที่ คอยตรวจสอบคุณภาพน้ำก่อนนำมาบรรจุขวดแจกจ่ายทุกครั้ง อีกทั้งน้ำบาดาลที่นำมาผลิตอยู่ในชั้นใต้ดินที่มีความลึกตั้งแต่ 200-300 เมตร จะมีชั้นกรวดทรายหรือชั้นหินกรองความสะอาด โดยธรรมชาติที่เชื้อโรคไม่สามารถลงไปปนเปื้อนได้อยู่แล้ว น้ำบรรจุขวด และอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เกือบทุกชนิดก็ใช้น้ำบาดาลเป็นวัตถุดิบ นอกจากน้ำบาดาลจะมาจากแหล่งน้ำคุณภาพ ผ่านการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำแล้ว ขั้นตอนการผลิตน้ำดื่มยังผ่านกระบวนการรีเวอร์ออสโมซิส (RO) และผ่านการ ฆ่าเชื้อด้วยแสงอุลตร้าไวโอเลต (UV) จึงรับประกันได้ว่าน้ำดื่มมีคุณภาพสะอาด ปลอดภัย
ด้านผลกระทบเรื่องการทรุดตัวของแผ่นดิน แม้ก่อนหน้านี้ ได้มีกฎหมายห้ามขุดเจาะ บ่อบาดาลเพิ่มในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่เรื่องนี้ก็มีข้อยกเว้นสำหรับกรณีฉุกเฉิน อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวยืนยันว่า การเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในช่วงวิกฤตการณ์น้ำท่วมใหญ่นี้ จะไม่กระทบต่อปัญหาแผ่นดินทรุด เพราะมีการไหลและการซึมของน้ำลงสู่ชั้นน้ำบาดาลอยู่เรื่อย ๆ ตลอดเวลาไม่เคยหยุด ตราบใดที่เราสูบมาใช้ไม่เกินอัตราการไหลเติมตามธรรมชาติ เราก็จะมีน้ำบาดาลใช้อย่างไม่มีวันหมด ซึ่งแหล่งน้ำบาดาลที่นำผลิตเป็นน้ำดื่มมาจากบ่อน้ำบาดาลซึ่งเป็นบ่อสังเกตการณ์ภายใต้การควบคุมดูแลโดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มีการก่อสร้างมาตรฐานตามหลักวิชาการ และจะใช้ในภารกิจภายในระยะวิกฤตนี้ไม่เกิน 90 วัน หลังจากนั้นกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะได้นำบ่อน้ำบาดาลเหล่านี้ ไปเป็นบ่อสังเกตการณ์คุณภาพน้ำบาดาลและปริมาณน้ำบาดาลดังเดิม
ขณะนี้ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้ามาเพื่อบริการน้ำดื่มสะอาดบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยจะเน้นจุดที่อยู่ใกล้ศูนย์อพยพเพื่อลำเลียงน้ำให้ผู้เดือดร้อนให้เร็วที่สุดและทั่วถึงที่สุด สำหรับผู้ต้องการทราบข้อมูลคุณภาพน้ำบาดาล และจุดบริการน้ำดื่ม สามารถติดตามและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ทางโทรศัพท์ 0 2299 — 3900, 0 2299 — 3933 และเว็บไซต์ www.dgr.go.th/flood