ธ.ก.ส.- CP เมล็ดพันธุ์ ร่วมพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดของเกษตรกร

ศุกร์ ๐๒ ธันวาคม ๒๐๑๑ ๐๙:๐๓
ธ.ก.ส. ร่วม บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ เมล็ดพันธุ์ จำกัด พัฒนาศักยภาพการผลิตของเกษตรกรในช่วงหลังน้ำลด เพื่อเพิ่มรายได้ โดยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดต้นทุน พร้อมสร้างกลไกการตลาดเชื่อมโยงรองรับผลผลิต

นายอรุณ เลิศวิไลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) และนายมนตรี คงตระกูลเทียน ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ ด้านการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดของเกษตรกร ณ ห้องประชุม ชั้น 3 ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่นางเลิ้ง

ภายหลังพิธีลงนาม นายอรุณ เลิศวิไลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ในการพัฒนาศักยภาพการผลิตตามประเภทผลผลิตทางการเกษตร อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด เป็นต้น เพื่อให้การผลิตของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่และลดต้นทุนการผลิตด้วยวิทยาการการผลิตและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสนับสนุนด้านการตลาด โดยการรับซื้อผลิตผลและเชื่อมโยงกลไกการตลาดไปยังจุดต่าง ๆ เพื่อรองรับผลผลิต

ทั้งนี้ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ เมล็ดพันธุ์ จำกัด ซึ่งมีบุคลากรและนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญจะจัดวิทยากรไปบรรยายให้ความรู้ด้านการผลิตและการตลาดแก่เกษตรกรลูกค้าและพนักงาน ธ.ก.ส. พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมกระบวนการผลิตการจัดการของเกษตรกรให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีการจัดทำแปลงสาธิต เพื่อให้เห็นข้อแตกต่างและพิสูจน์ได้ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ที่ทำการผลิตตามระบบคุณภาพ ในส่วนของ ธ.ก.ส. จะสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและค่าลงทุนแก่เกษตรกรรวมทั้งสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายเกษตรกรมืออาชีพ เช่น กลุ่มเครือข่ายผู้ผลิต ผู้รวบรวมผลผลิต เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสร้างอำนาจต่อรองทางการตลาด

นายอรุณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธ.ก.ส. ได้กำหนดมาตรการฟื้นฟูเกษตรกรลูกค้าผู้ประสบภัยหลังน้ำลด เพื่อให้เกษตรกรสามารถฟื้นตัวและกลับมาประกอบอาชีพได้ตามเดิม ประกอบด้วย มาตรการด้านสินเชื่อ ได้แก่ การตัดจำหน่ายหนี้สูญกรณีที่เกษตรกรลูกค้าเสียชีวิตจากอุทกภัย ซึ่งขณะนี้ได้ตัดหนี้สูญแล้วจำนวน 47 ราย เป็นเงิน 3.49 ล้านบาท กรณีผลผลิตได้รับความเสียหาย จะพักชำระหนี้และงดคิดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งหลังจากพักหนี้แล้วยังเป็นภาระหนัก ธ.ก.ส. จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการผลิตและรายได้ พร้อมทั้งจะจัดสรรเงินทุนเพื่อให้เกษตรกรนำไปลงทุนฟื้นฟูการประกอบอาชีพ รายละไม่เกิน 100,000 บาท โดยลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติที่เกษตรกรได้รับ ลงร้อยละ 3 ต่อปี นอกจากนี้ยังให้เงินกู้เพื่อนำไปฟื้นฟูคุณภาพชีวิต เช่น ปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ทางการเกษตร เป็นต้น รายละไม่เกิน 30,000 บาท

มาตรการฟื้นฟูอาชีพ ทั้งอาชีพเดิมและอาชีพเสริม เช่น การสนับสนุนเรื่องความมั่นคงด้านเมล็ดพันธุ์ข้าว โดย ธ.ก.ส. จะตั้งกองทุนเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชน ผ่านศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ธ.ก.ส. 84 ศูนย์ ศูนย์ละไม่เกิน 2 ตัน เพื่อเชื่อมโยงกับศูนย์ข้าวชุมชนของกรมการข้าวและกรมส่งเสริมการเกษตร การสนับสนุนการจัดหาปัจจัยการผลิตโดยเชื่อมโยงสินเชื่อฟื้นฟูอาชีพกับกระบวนการของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.(สกต.)และบริษัทไทยธุรกิจเกษตร จำกัด(TABCO) เสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรปรับสภาพการผลิตให้สอดคล้องกับภูมิศาสตร์ การสนับสนุนสินเชื่อครบวงจร เพื่อจัดหาปัจจัยการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การตลาดและการประกันภัย ในส่วนอาชีพเสริม ธ.ก.ส. ให้การสนับสนุนอาชีพระยะสั้นแก่เกษตรกรลูกค้าหรือบุตรหลานของเกษตรกรลูกค้าผู้ประสบอุทกภัย โดยประสานกรมการจัดหางานในการจัดหางาน และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ในการจัดอบรม พัฒนาให้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพเสริมหรืออาชีพใหม่แก่เกษตรกรหรือบุตรหลาน สู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก(SME)

มาตรการซ่อม โดย ธ.ก.ส. ได้ประสานกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน จัดกิจกรรมให้บริการซ่อมเครื่องจักรกล เครื่องยนต์การเกษตร รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทั้งยังได้ประสานโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างเสริมสุขภาพของเกษตรกรลูกค้าผู้ประสบ อุทกภัยทั้งสุขกายและสุขภาพจิต

ส่วน มาตรการสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือการเสริมบทบาทชุมชนต้นแบบตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ โดยสนับสนุนให้ชุมชนต้นแบบฯที่ประสบอุทกภัยมีส่วนร่วมจัดทำเวทีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่การจัดทำแผนฟื้นฟูของชุมชนทั้งระยะสั้น ระยะปานกลางและระยะยาว ซึ่งรูปแบบที่ ธ.ก.ส. ดำเนินการ จะเริ่มจากการจัดเวทีประชาคม และการจัดประชุมเสวนาร่วมกับผู้นำชุมชน เพื่อเก็บข้อมูลความเสียหาย รวมทั้งเพื่อรับทราบถึงความต้องการในการฟื้นฟูของชุมชน เป็นการกระตุ้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูบนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง จากนั้น ธ.ก.ส. จึงนำแผนฟื้นฟูมาบูรณาการให้ความช่วยเหลือตามมาตรการในด้านต่างๆ โดยร่วมกับส่วนราชการภาคีเครือข่ายภาคเอกชนและทุกภาคส่วน ในลักษณะ One Stop Service โดยมีเป้าหมาย 315 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 63 จังหวัด จังหวัดละ 5 จุด โดยได้เริ่มต้นโครงการนำร่องมาตรการฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำลด “โครงการชีวิตใหม่ จากใจ ธ.ก.ส.” ที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่แรก และจะทยอยดำเนินการจนครบทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ควบคู่กับการร่วมขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูของชุมชนและการติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version