นายชัยรัตน์ ชูประภาวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บราเดอร์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงภายใต้แบรนด์ “ MAXXMA” (แม็กซ์ม่า) เปิดเผยว่า ปัญหาอุทกภัยภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปีสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของไทยมากกว่าครั้งที่เกิดสึนามิในประเทศญี่ปุ่นในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยลดลง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2554เป็นอย่างน้อย สภาวะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบริษัททำให้ยอดขายฟิล์มกรองแสงลดลง บริษัทจึงต้องมีการปรับเป้าหมายยอดขายลดลงไว้ที่ 40 ล้านบาทเทียบเท่ากับเมื่อปีที่ผ่านมาจากเดิมที่เคยตั้งไว้ 50 ล้านบาท
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ บริษัทจึงได้ปรับแผนการทำตลาดใหม่ โดยจะแนะนำสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งล่าสุดได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตู(Maxxma Clear Guard) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แผ่นฟิล์มใสสำเร็จรูป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลและปกป้องรถยนต์ จะเน้นการปกป้องและดูแลรักษาบริเวณที่เปิดประตูหรือมือจับ ซึ่งจะช่วยป้องกันรอยขีดข่วนตำแหน่งมือจับที่เปิดประตู ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้จากรอยเล็บมือ แหวน กุญแจรถหรือการขูดขีดของมีคมของที่ผู้ใช้รถ
ฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตู (Maxxma Clear Guard) เป็นวัสดุสังเคราะห์ชนิดพิเศษใสที่มีคุณภาพสูง ทำจากโพลียูรีเทน หนา 200 ไมครอน จึงให้ความทนทานและมีความยืดหยุ่นสูงต่อการรับแรงกระทบจากเศษวัสดุต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน และยังมีคุณสมบัติพิเศษด้วยเนื้อยูริเทนใสทำให้ง่ายต่อการยึดติดกับสารอคริลิคที่มีความละเอียดอ่อน ช่วยให้การยึดติดของเนื้อฟิล์มเนียนเรียบไปกับมือจับประตูได้อย่างสวยงาม โดยไม่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของรถ
อีกทั้งยังไม่ทำให้เกิดคลื่นหรือฟองอากาศในขณะติดตั้ง ซึ่งการติดตั้งก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย บริษัทจึงคิดค้นเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปสำหรับรถยี่ห้อต่างๆ ทำให้เจ้าของรถสามารถเลือกซื้อและนำไปติดตั้งได้ด้วยตัวเอง
สิ่งที่สำคัญการลอกฟิล์มออกจะไม่ทิ้งคราบกาวไว้ ดังนั้นฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตู (Maxxma Clear Guard) จึงมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมในการป้องกันรอยต่าง ๆ ที่จะกระทบกับมือจับประตู และไม่ทำสภาพรถเปลี่ยนไปจากเดิม
ส่วนกลุ่มเป้าหมายบริษัทจะเน้นไปที่กลุ่มคนรักรถและดูแลรักษารถยนต์ทั้งรถเก่าและรถใหม่ป้ายแดง ซึ่งเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายให้กับบริษัทได้ไม่ยากนัก โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ 10,000 คันต่อเดือน
สำหรับฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตู(Maxxma Clear Guard) จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปในช่วงระหว่างวันที่ 1 ถึง 12 ธันวาคม2554 ซึ่งภายในบูธจะมีสินค้าของบริษัทโชว์มากมาย ทั้งฟิล์มกรองแสงMAXXMA MAX สติ๊กเกอร์ปกป้องสีรถ CARBON GUARD การสาธิตการติดตั้งฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตู(Maxxma Clear Guard) พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตู(Maxxma Clear Guard) ในราคาเพียงชุดละ 599 บาท เท่านั้น
สำหรับแผนด้านการตลาด จะทำการตลาดเชิงรุก โดยเน้นเข้าไปแนะนำสินค้าที่โชว์รูมค่ายรถต่างๆ ร้านตัวแทนจำหน่ายที่มีมากกว่า 200 แห่ง ทั่วประเทศ รวมถึงจะเร่งขยายตลาดด้วยการสื่อสารตรงและสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายอย่างเข้มข้น โดยจะเน้นการออกบูธแนะนำสินค้า การจัดอีเว้นท์และ โรดโชว์ต่างๆ ซึ่งจะโฟกัสไปที่งานเกี่ยวกับวงการรถยนต์ งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป และงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ด้วย
ขณะเดียวกัน จะทำตลาดร่วมกับตัวแทนจำหน่าย โดยให้ตัวแทนจำหน่ายแนะนำฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตู (Maxxma Clear Guard) ควบคู่ไปกับฟิล์มกรองแสง “ MAXXMA” เพราะบริษัทมีฐานลูกค้าเก่าที่ติดฟิล์มกรองแสง MAXXMAมากกว่า 10,000 ราย ที่จะสามารถส่งข้อมูลข่าวสารให้กับกลุ่มลูกค้าเก่า และขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ โดยตั้งงบการตลาดรวมโฆษณาประชาสัมพันธ์ไว้กว่า10% ของยอดขาย
นอกจากนี้ ก็จะยังมุ่งเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่าย คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงลูกค้า โดยมีทีมงานที่ดูแลตัวแทนจำหน่ายโดยเฉพาะ รวมถึงจะมีการจัดกิจกรรมและมอบโปรโมชั่นต่างๆให้กับตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า อีกทั้งจะให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย เพราะจะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในสินค้าและบริษัทมากยิ่งขึ้น
ด้านสภาพการแข่งขันของฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตู (Maxxma Clear Guard) นายชัยรัตน์ กล่าวว่า “ การแข่งขันในช่วงแรกน่าจะไม่รุนแรงมากนัก เพราะยังไม่มีสินค้าชนิดนี้เข้ามาในตลาดรถยนต์ บริษัทเป็นผู้ผลิตคิดค้นรายแรกสำหรับฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตู”
นายชัยรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า “ ผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้คงจะคลี่คลายลงได้ในปี2555 ซึ่งคาดว่า จะได้รับปัจจัยบวกจากการเร่งฟื้นกำลังการผลิตรถยนต์ของแต่ละค่าย ประกอบกับนโยบายการคืนภาษีรถยนต์คันแรก จะช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยเริ่มกลับมาคึกคักได้อีกในช่วงระยะเวลาไม่นานนัก ”
สำหรับผลประกอบการในปี 2554 นี้ บริษัท ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทต้องมีการปรับเป้าหมายยอดขายลดลงไว้ที่ 40 ล้านบาทเท่ากับเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าใหม่ๆเข้ามาคาดว่าจะสามารถทำให้ยอดขายปี 2555 ก้าวกระโดดขึ้นอย่างแน่นอน