สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ฯเดินหน้าช่วยเหลือสมาชิก ร่วมกู้วิกฤติอุทกภัยชูโครงการ“ฟื้นฟูสภาพรถยนต์”

พฤหัส ๐๘ ธันวาคม ๒๐๑๑ ๑๓:๕๘
สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย เดินหน้ามอบสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกฯ ชูแผนช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาอุทกภัย ผนึกค่ายรถและพันธมิตรใหญ่ เปิดโครงการ “รวมใจอาสา ฟื้นฟูรถยนต์หลังวิกฤตน้ำท่วม 2011” ทั้งผลิตเสื้อยืดมอบให้กับค่ายยานยนต์ และไกด์บุ๊ค “วิธีดูแลรถยนต์หลังน้ำท่วม” เพื่อนำรายได้มอบให้กับสมาชิกฯ ที่ได้รับผลกระทบ ประกาศดีเดย์วันที่ 13-29 ธันวาคมศกนี้ ณ เมืองทองธานี

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) เปิดเผยว่า สมาคมฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในกิจกรรมเพื่อสังคมและการมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับสมาชิกฯ ซึ่งมีจำนวนกว่า 220 คนมาโดยตลอด และจากเหตุการณ์อุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ในครั้งนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ รวมถึงเพื่อนสมาชิกฯ ส่วนหนึ่งด้วย ดังนั้นฐานะที่เป็นสื่อกลางในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ สมาคมฯ จึงดำเนินโครงการที่จะบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถยนต์ทั่วประเทศในชื่อโครงการ “รวมใจอาสา ฟื้นฟูรถยนต์หลังวิกฤตน้ำท่วม” (Thai Flood Charity Used Car 2011)

“เมื่อรถยนต์เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดำรงชีพ และมีผู้ประสบภัยจำนวนมากที่รถยนต์อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ต้องมีการฟื้นฟูสภาพ ดังนั้นทางสมาคมฯ จึงได้ดำเนิน โครงการสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และจักรยานยนต์ไทย รวมใจอาสา ฟื้นฟูรถยนต์หลังวิกฤตน้ำท่วม 2011 เพื่อให้บริการซักฟอกเบาะ-พรมฟื้นฟูสู่สภาพใหม่ในอัตราราคาพิเศษให้กับรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยระยะเวลาดำเนินโครงการจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13-29 ธันวาคม 2011 รวมระยะเวลา 17 วัน ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ได้รับแรงสนับสนุนอย่างดีจากบริษัทรถยนต์ ศูนย์อิมแพคเมืองทองธานี และผู้ชำนาญการในด้านนี้โดยตรง โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปช่วยเหลือสมาชิกผู้สื่อข่าวสายยานยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงผู้ประสบภัยในส่วนอื่นๆ”

สำหรับโครงการนี้เป็นการช่วยเหลือเยียวยาเจ้าของรถที่ประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วม หรือได้รับผลกระทบจนยานพาหนะหรือรถได้ความเสียบางส่วน เช่น เบาะ-พื้นพรม ฉนวนแช่น้ำ มีความชื้น กลิ่นอับ มีคราบฝังแน่น ยากต่อการฟื้นฟูหรือหากเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการหรือคาร์แคร์อื่นๆ จะมีอัตราค่าบริการสูงมากถึง 2,000-4,000 บาท ขณะที่โครงการนี้จะมีอัตราค่าบริการสำหรับรถยนต์ไม่เกิน 7 ที่นั่ง เพียง 1,500 บาท (ซักฟอกเบาะ-พรมและแผ่นรองพื้น+ล้างสีดูดฝุ่น+อบสตีมเมอร์ฆ่าเชื้อโรค) ส่วนการให้บริการ เปลี่ยนฉนวนซับ-กันเสียง ชนิดผ้า รถยนต์ไม่เกิน 7 ที่นั่ง ราคาพิเศษ 500 บาทต่อคันเท่านั้น

“การให้บริการนี้ เหมาะสำหรับรถที่ประสบภัยน้ำท่วมและไม่มีกรมธรรม์ประเภท 1 หรือไม่มีเงื่อนไขการให้ประกันภัยในส่วนเฉพาะด้านนี้ (ซักฟอก-เบาะพรม) การให้บริการในอัตราพิเศษนี้เป็นการร่วมมือของจิตอาสา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ผู้สนับสนุนจากธุรกิจยานยนต์โดยกำหนดราคาค่าบริการที่ถูกมาก ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ทางสมาคมฯ จะดำเนินการช่วยเหลือสมาชิกผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ประสบอุทกภัย โดยผู้ที่นำรถยนต์มารับบริการหรือลงทะเบียนล่วงหน้าในช่วงวันที่ 13-29 ธันวาคมนี้ นอกจากจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรถยนต์แล้ว ยังถือเป็นการร่วมทำบุญบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยไปในตัวอีกด้วย“

โดยทางสมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนจากอิมแพคเมืองทองธานี ในการเอื้อเฟื้อสถานที่พื้นที่ลานจอดรถที่สามารถรองรับจำนวนรถได้มากกว่า 250 คันรวมถึงระบบสาธารณูปโภค พร้อมด้วยพันธมิตรจิตอาสา บริษัท เดอะ ซีคเคอร์ จำกัด เป็นผู้ร่วมทำงานในด้านการบริการในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญในระบบศูนย์บริการคาร์แคร์ มีประสบการณ์การบริหารการให้บริการเฉพาะด้าน โดยมี Pico (Thailand) Public Company Limited. อำนวยการด้านการจัดงาน รวมถึงการสนับสนุนพิเศษจาก DALLEE ผู้นำเข้าเครื่องมือผู้จำหน่ายอุปกรณ์คาร์แคร์ครบวงจรในการให้การสนับสนุนเครื่องมือเฉพาะด้าน เข้าติดตั้งระบบลมและเชื่อมต่อระบบน้ำ-ไฟ คาดว่าจะมีจำนวนรถที่เข้ารับบริการ ประเมินด้วยจำนวนทีมงานและสถานที่ เบื้องต้นบริการได้สูงสุด 100 คันต่อวัน โดยระยะการทำงานแบบธรรมดา (ซักฟอกพื้นพรม แบบถอดพรมทิ้งไว้อย่างเดียว) จะใช้เวลา 2-3 วัน ส่วนระยะการทำงานแบบ Full System (ถอดเบาะ+พรม รวมเปลี่ยนฉนวน) ไม่เกิน 5 วัน

“นอกจากนี้ด้วยการสนับสนุนงบประมาณจากค่ายยานยนต์ต่างๆ สมาคมฯ จึงได้จัดทำเสื้อยืดคอกลม รวมใจอาสา ฟื้นฟูรถยนต์หลังวิกฤตน้ำท่วม จำนวนกว่า 1,100 ตัวเพื่อมอบให้กับค่ายรถยนต์ต่างๆ รวมทั้งจัดทำเอกสารคู่มือวิธีดูแลรถยนต์เมื่อได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเพื่อนำไปกระจายให้กับผู้ใช้รถทั่วประเทศ ซึ่งสมาคมฯ คาดว่าโครงการ รวมใจอาสา ฟื้นฟูรถยนต์หลังวิกฤตน้ำท่วม จะสามารถเป็นอีกหนึ่งแรงใจที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อเป็นอีกแรงสนับสนุนในการพลิกฟื้นสภาพเศรษฐกิจโดยรวมและอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาเจริญเติบโตอย่างร้อนแรงได้อีกครั้ง” นายกสมาคมฯ กล่าว

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือThai Automotive Journalists Association (TAJA) เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางทางวิชาชีพของผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ปัจจุบันที่ตั้งสมาคมฯ เลขที่ 4/299 หมู่ 5 ซอยลาดปลาเค้า 66 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220 โทรศัพท์ : 0-2522-1731-8, 0-2971-6450-60 โทรสาร : 0-2971-6462

คณะกรรมการและนายกสมาคมฯ ประจำปี 2554-2555 มี 15 ท่าน นำโดย นายกสมาคมฯ คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์, รองนายกฯ 2 ท่านคือ คุณวัชระ ธรรมศรี และ คุณภูวนาถ เผ่าจินดา ส่วนกรรมการอีก 12 ท่านประกอบด้วย คุณธนิต รัตนถิรวรรณ, คุณวชิระ เรืองมาลัย, คุณเจษฎา วงษ์พาณิชย์, คุณสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง, คุณสมบัติ วัฒนวิไล, คุณมนต์ชัย สว่างศรี, คุณกิตติศักดิ์ ด้วงพิมพ์, คุณสมหมาย มังคละพุทธิภักดิ์, คุณสนวัฒน์ สุนทรกรันต์, คุณสมศักดิ์ มีลือการ, คุณทวีศักดิ์ นารอดมงคล และ คุณศักดิ์ณรงค์ ฉันทศาสตร์

รายละเอียดเพิ่มเติม : สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย

Tel : 0-2522-1731-8, 0-2971-6450-60 ต่อ 213 Fax : 0-2971-6462

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ