“วิธีการสื่อสารกับพนักงานในองค์กรมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากความคาดหวังที่สูงขึ้น ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม ยุคโลกไร้พรมแดน รวมถึงวิวัฒนาการของวิธีการสื่อสารด้วยระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย” มร.ริชาร์ด โยว์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการจัดการคนเก่งและการเปลี่ยนแปลง ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ของทาวเวอ์ส วัทสันกล่าว พร้อมเสริมว่า “การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วประกอบกับวิธีการสื่อสารที่ทันสมัย ทำให้การสื่อสารภายในองค์กรมีความเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารไม่สามารถใช้วิธีการสื่อสารแบบเดิมได้อีก เพราะลูกจ้างมีความต้องการข้อมูลมากขึ้น เกิดวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น”
จากผลการสำรวจความเปลี่ยนแปลงและการประเมินประสิทธิภาพการสื่อสารประจำปี 2554 โดย ทาวเวอร์ส วัทสัน ระบุว่า องค์กรกว่า 2 ใน 3 หรือประมาณร้อยละ 64 ขององค์กรที่สำรวจทั้งหมด มีความรู้และทักษะในการใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และร้อยละ 69 ขององค์กรที่สำรวจทั้งหมด มีการวางแผนการใช้โซเชียลมีเดียมากยิ่งขึ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่ามีเพียงร้อยละ 28 ขององค์รที่สำรวจระบุว่า การใช้โซเชียลมีเดียนั้นมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าต่อการลงทุน และเพียงร้อยละ 15 ขององค์กรที่สำรวจมีเครื่องมือประเมินประสิทธิภาพของการสื่อสารด้วยระบบโซเชียลมีเดีย ทั้งนี้ ในส่วนขององค์รกรที่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของโซเชียลมีเดีย จำนวนร้อยละ 63 ลงทุนในการสื่อสารผ่านการใช้ระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ และอีกร้อยละ 58 ลงทุนในการสร้างบล็อกและวารสารอิเล็กโทรนิกส์สำหรับผู้บริหาร
“องค์กรธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้รับการตอบรับและเกิดความมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กรมากกว่าเดิม” มร.โยว์ กล่าว “การสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เปิดโอกาสให้พนักงานมีบทสนาทนาร่วมกัน เกิดการหลอมรวมทางวัฒนธรรมองค์กรและเกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน องค์กรใดก็ตามที่ไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดีย มักไม่สามารถกระตุ้นพนักงานหรือสร้างแรงจูงใจในการขับเคลื่อนพนักงานได้มากนัก”
การสำรวจความเปลี่ยนแปลงและการประเมินประสิทธิภาพการสื่อสารประจำปี 2554 ของทาวเวอร์ส วัทสัน เป็นการสำรวจ 604 องค์กรทั่วโลก โดยเป็นการค้นหากรณีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในการสื่อสารและการจัดการความเปลี่ยนแปลง โดยผลการสำรวจมีดังต่อไปนี้
การประเมินและตรวจวัดประสิทธิภาพ
มากกว่าร้อยละ 56 ขององค์กรที่มีการสื่อสารกับพนักงานอย่างต่อเนื่อง มีการประเมินประสิทธิภาพของโซเชียลมีเดียว่าเป็นไปตามจุดมุ่งหมายการสื่อสารที่องค์กรต้องการหรือไม่ และจำนวนกว่าร้อยละ 62 มีเครื่องมือตรวจประเมินของตนเอง พร้อมกับนำมาเป็นแนวทางในการวางแผนธุรกิจต่อไป ขณะที่องค์กรที่มีการสื่อสารกับพนักงานน้อย เพียง 1 ใน 4 ขององค์กรเหล่านั้นที่จะใช้เครื่องมือตรวจวัดประสิทธิภาพการใช้งานโซเชียลมีเดียเพียงร้อยละ 37 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ที่มีการวัดประสิทธิภาพของโซเชียลมีเดียต่อการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายองค์กรอย่างจริงจัง โดยองค์กรใดที่มีการบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ จะดำเนินการวัดประสิทธิภาพการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียมากกว่าองค์กรทั่วไป ถึง 6 เท่า
“การตรวจประเมินประสิทธิภาพโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงช่วยให้องค์กรมีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น ยังเป็นการให้ข้อมูลเพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่พนักงาน และเป็นการสร้างความมั่นใจต่อทิศทางในอนาคตขององค์กร” มร.โยว์กล่าว
สนับสนุนข้อเสนอของพนักงาน
มากกว่า 1 ใน 3 ขององค์กรที่มีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ มักมีผู้ทำหน้าที่กำหนดคุณค่าของพนักงานภายในองค์กร(Employee Value Proposition: EVP) เปรียบเทียบกับองค์กรทั่วไปที่เพียงร้อยละ 4 เท่านั้นที่จะมีผู้กำหนดคุณค่าเหล่านี้ EVP เป็นการระบุเงื่อนไขให้พนักงานทราบว่าบริษัทคาดหวังอะไรจากพวกเขาและขณะเดียวกันก็ทำให้พนักงานทราบว่าพวกเขาจะคาดหวังอะไรจากบริษัท โดยผลสำรวจระบุว่า แม้แต่ในองค์กรที่มีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ยังมีพื้นที่สำหรับการปรับปรุงในเรื่องนี้เช่นกัน
“การแจ้งให้พนักงานทราบถึงคุณค่าของพนักงาน (EVP) ก่อนเข้าทำงานถือเป็นเครื่องมือแสดงประสิทธิภาพการสื่อสารภายในองค์กร องค์กรใดก็ตามที่มีผู้จัดการแผนกสามารถที่ระบุได้ชัดเจนว่าต้องทำอะไร จะสามารถดึงดูดพนักงาน และรักษาพนักงานระดับหัวกะทิไว้ได้มากกว่า” มร.โยว์ กล่าว
ผลการสำรวจอื่นๆ
- ผลการสำรวจทำให้มั่นใจได้ว่าการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นส่วนสำคัญของการบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลง และหากการดำเนินการทั้งสองอย่างมีประสิทธิภาพ จะส่งผลดีต่อภาพรวมทางการเงินของบริษัท อนึ่ง บริษัทใดที่มีการสื่อสารและการจัดการความเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ จะมีผลการดำเนินงานดีกว่าถึง 2.5 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัททั่วไป
- บริษัทที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงและสามารถสื่อสารได้ดีจะมีโอกาสบูรณาการกลยุทธ์การจัดการความเปลี่ยนแปลงกับการสื่อสารมากกว่าบริษัทที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงและความสามารถในการสื่อสารต่ำ โดยมีโอกาสมากกว่าถึง 5 เท่า และอีกกว่า 8 เท่า ที่บริษัทที่มีศักยภาพสูงเหล่านี้ จะสร้างพฤติกรรมองค์กรใหม่ การใช้ทักษะความรู้ใหม่ๆ เข้ามาบริหารจัดการภายในองค์กรภายหลังการเปลี่ยนแปลง
- กว่า 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างที่ทำการสำรวจระบุว่า ผู้จัดการแผนกมักเป็นผู้สื่อสารกับพนักงาน แต่มีเพียงร้อยละ 28 ของจำนวนผู้จัดการแผนกเท่านั้น ที่ได้รับการประเมินประสิทธิภาพการสื่อสารกับพนักงาน ขณะที่บริษัทส่วนใหญ่จะฝึกฝนผู้จัดการแผนกให้สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและการให้ความรู้เกี่ยวกับบริหารความเปลี่ยนแปลง แต่ยังพบว่าไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
เกี่ยวกับทาวเวอร์ส วัทสัน
ทาวเวอร์ส วัทสัน (NYSE, NASDAQ:TW) เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ทำธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการบริหารองค์กร เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กร ตลอดจนการบริหารจัดการความเสี่ยงและการลงทุน บริษัทมีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจำนวน 14,000 คนทั่วโลก เพื่อให้บริการออกแบบโครงสร้างผลตอบแทนและสวัสดิการสำหรับลูกจ้าง การบริหารทรัพยากรบุคคล และโครงสร้างผลตอบแทน ตลอดจนการบริหารจัดการด้านความเสี่ยงและเงินลงทุน สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.towerswatson.com
ทาวเวอร์ส วัทสัน มีบริการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ การซื้อกิจการตลอดจนการตกลงเงื่อนไขและแนวทางการแก้ปัญหา โดยเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้ประกอบการพิจารณามูลค่าทรัพย์สินก่อนการซื้อขายกิจการ ตลอดจนการบูรณาการด้านโครงสร้างแรงงานภายหลังการควบรวมกิจการ
ติดต่อ:
สิ่อมวลชนกรุณาติดต่อ:
คุณพิมนัฏดา วิชชุภานนท์
บริษัท ทาวเวอร์ส วัทสัน (ประเทศไทย) จำกัด
+662 654 7209