กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--ขสมก.
นายวิโรจน์ นีละโยธิน หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่รถเอกชนร่วมบริการ ที่ ขสมก.กำกับดูแลอยู่ในฐานะผู้ให้สัมปทานและควบคุมสัญญา มีมาตรฐานการให้บริการที่ยังไม่เป็นที่พอใจของประชาชนโดยเฉพาะในเรื่องการขับรถที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะนี้ทาง ขสมก. ได้เพิ่มมาตรการในการควบคุมป้องกัน โดยล่าสุด นายโอภาส เพชรมุณี กรรมการองค์การและรักษาการผู้อำนวยการ ขสมก.คนใหม่ ได้สั่งการให้ฝ่ายการเดินรถ ขสมก.มีหนังสือขอความร่วมมือถึงตำรวจนครบาลในการตรวจจับหากมีการขับรถเร็วจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่มีการจราจรไม่ติดขัดได้มีผู้โดยสารร้องเรียนให้ ขสมก.ทราบบ่อยครั้งว่าพนักงานขับรถเอกชนร่วมบริการมักจะขับรถเร็ว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นได้ขอความร่วมมือให้สกัดจับและลงโทษตามกฎหมายได้ทันที พร้อมทั้งมีการลงโทษตามสัญญาการเข้าร่วมเดินรถกับ ขสมก.อีกกระทงหนึ่งสถานหนักยิ่งขึ้น โดยการสั่งพักรถและห้ามพนักงานขับรถปฎิบัติหน้าที่หรือลงโทษสถานหนักที่สุดหากมีการกระทำผิดซ้ำครั้ง เช่น ถอนรถคันที่กระทำผิดและบอกเลิกสัญญาซึ่งจะเป็นไปตามสัญญาในบทลงโทษที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป รักษาการ ผอ.ขสมก.ได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัท อาร์เอ็นที เทเลวิชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานติดตั้งวิทยุบนรถเมล์ ขสมก.ให้เปิดศูนย์ฮอตไลน์ (Call Center) ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1721 เพื่อให้ผู้โดยสารประชาชนที่พบเห็นข้อบกพร่องงานบริการรถเมล์ทั้งรถ ขสมก.และรถร่วมบริการหรือแนะนำบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงได้อีกช่องทางหนึ่ง จากที่ขณะนี้เปิดศูนย์ฮอตไลน์บริการผู้โดยสารรับเรื่องร้องเรียน สอบถามเส้นทางรถเมล์อยู่แล้วที่หมายเลข 184 เฉพาะในช่วงเวลา 06.00-21.00 น.ทุกวัน เพิ่มมาตรการในการควบคุมรถร่วมบริการให้อยู่ในกติกา โดยมีนายตรวจออกไปตั้งด่านสุ่มตรวจตามท้องถนนอยู่ในถนนสายสำคัญๆเป็นประจำ ในช่วงเดือนตุลาคม 2547 -กันยายน 2548 ได้ลงโทษรถร่วมที่กระทำผิดฝ่าฝืนสัญญาการเข้าร่วมเดินรถกับ ขสมก. 5,547 ราย โดยมีลงโทษทั้งพัก
การเดินรถ พักงานพนักงานประจำรถ มิได้ขึ้นปฎิบัติหน้าที่ ภาคทัณฑ์ ให้ปรับปรุงการบริการ — มารยาท และลงโทษปรับเป็นเงิน 1 ล้านบาทเศษ รวมทั้งได้จัดกำลังนายตรวจเคลื่อนที่เร็วออกปฎิบัติงานในภาคสนาม ตามท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง
หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ ขสมก.ชี้แจง กรณีรถเมล์ร่วมบริการสาย 25 ที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมาชนรถจักรยานยนต์จนทำให้ ดช.ธนวิทย์ อินธิพงศ์ชัย หรือน้องเอิร์ธ ที่นั่งซ้อนท้ายนายสุรชัย อิทธิพงศ์ชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลทางคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่หากชี้ชัดว่าทางรถร่วมเป็นฝ่ายผิดทางบริษัทกมลประกันภัยจะต้องชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลของผู้เสียหายทั้งหมดตามกรมธรรม์ซึ่งทางบริษัทกมลฯ ก็พร้อมอยู่แล้วที่จะดำเนินการ แต่ต้องรอผลทางคดีในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้อีกครั้ง ขณะนี้ทางเจ้าของรถร่วมสาย 25 คันที่เกิดเหตุได้เซ็นรับทราบกับทางโรงพยาบาล และรับเป็นเจ้าของไข้เพื่อช่วยเหลือดูแล
ดช. ธนวิทย์ อินธิพงศ์ชัย และนายนายสุรชัย อินธิพงศ์ชัย ในระหว่างรอผลทางคดี รวมถึงผู้อำนวยการเขตการเดินรถ ที่ 3 ซึ่งเป็นตัวแทน ขสมก.ได้ไปดูแลผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลและให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมด้วยแล้ว--จบ--
- ธ.ค. ๒๕๖๗ รฟท. ขสมก. และกรุงไทย ผนึกกำลัง ผลักดัน "บัตรเหมาจ่าย" ชำระค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีแดง และรถโดยสาร ขสมก. ยกระดับคุณภาพบริการเดินทางระบบราง ระบบล้อแบบไร้รอยต่อ
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ดร.เอ้ อธิการฯสจล.เชื่อแผนฟื้นฟู ขสมก.อัพเกรดชีวิตคนกรุง
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: CARRO “พ่นน้ำยา ด้วยน้ำใจ สู้ภัยโควิด” อาสาดูแลรถตู้ขนส่งสาธารณะ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ลดความเสี่ยง COVID – 19