ขสมก.เพิ่มมาตรการกวดขันรถเอกชนร่วมบริการ

จันทร์ ๐๗ พฤศจิกายน ๒๐๐๕ ๐๙:๕๓
กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--ขสมก.
นายวิโรจน์ นีละโยธิน หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่รถเอกชนร่วมบริการ ที่ ขสมก.กำกับดูแลอยู่ในฐานะผู้ให้สัมปทานและควบคุมสัญญา มีมาตรฐานการให้บริการที่ยังไม่เป็นที่พอใจของประชาชนโดยเฉพาะในเรื่องการขับรถที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะนี้ทาง ขสมก. ได้เพิ่มมาตรการในการควบคุมป้องกัน โดยล่าสุด นายโอภาส เพชรมุณี กรรมการองค์การและรักษาการผู้อำนวยการ ขสมก.คนใหม่ ได้สั่งการให้ฝ่ายการเดินรถ ขสมก.มีหนังสือขอความร่วมมือถึงตำรวจนครบาลในการตรวจจับหากมีการขับรถเร็วจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่มีการจราจรไม่ติดขัดได้มีผู้โดยสารร้องเรียนให้ ขสมก.ทราบบ่อยครั้งว่าพนักงานขับรถเอกชนร่วมบริการมักจะขับรถเร็ว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นได้ขอความร่วมมือให้สกัดจับและลงโทษตามกฎหมายได้ทันที พร้อมทั้งมีการลงโทษตามสัญญาการเข้าร่วมเดินรถกับ ขสมก.อีกกระทงหนึ่งสถานหนักยิ่งขึ้น โดยการสั่งพักรถและห้ามพนักงานขับรถปฎิบัติหน้าที่หรือลงโทษสถานหนักที่สุดหากมีการกระทำผิดซ้ำครั้ง เช่น ถอนรถคันที่กระทำผิดและบอกเลิกสัญญาซึ่งจะเป็นไปตามสัญญาในบทลงโทษที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป รักษาการ ผอ.ขสมก.ได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัท อาร์เอ็นที เทเลวิชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานติดตั้งวิทยุบนรถเมล์ ขสมก.ให้เปิดศูนย์ฮอตไลน์ (Call Center) ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1721 เพื่อให้ผู้โดยสารประชาชนที่พบเห็นข้อบกพร่องงานบริการรถเมล์ทั้งรถ ขสมก.และรถร่วมบริการหรือแนะนำบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงได้อีกช่องทางหนึ่ง จากที่ขณะนี้เปิดศูนย์ฮอตไลน์บริการผู้โดยสารรับเรื่องร้องเรียน สอบถามเส้นทางรถเมล์อยู่แล้วที่หมายเลข 184 เฉพาะในช่วงเวลา 06.00-21.00 น.ทุกวัน เพิ่มมาตรการในการควบคุมรถร่วมบริการให้อยู่ในกติกา โดยมีนายตรวจออกไปตั้งด่านสุ่มตรวจตามท้องถนนอยู่ในถนนสายสำคัญๆเป็นประจำ ในช่วงเดือนตุลาคม 2547 -กันยายน 2548 ได้ลงโทษรถร่วมที่กระทำผิดฝ่าฝืนสัญญาการเข้าร่วมเดินรถกับ ขสมก. 5,547 ราย โดยมีลงโทษทั้งพัก
การเดินรถ พักงานพนักงานประจำรถ มิได้ขึ้นปฎิบัติหน้าที่ ภาคทัณฑ์ ให้ปรับปรุงการบริการ — มารยาท และลงโทษปรับเป็นเงิน 1 ล้านบาทเศษ รวมทั้งได้จัดกำลังนายตรวจเคลื่อนที่เร็วออกปฎิบัติงานในภาคสนาม ตามท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง
หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ ขสมก.ชี้แจง กรณีรถเมล์ร่วมบริการสาย 25 ที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมาชนรถจักรยานยนต์จนทำให้ ดช.ธนวิทย์ อินธิพงศ์ชัย หรือน้องเอิร์ธ ที่นั่งซ้อนท้ายนายสุรชัย อิทธิพงศ์ชัย ได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลทางคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่หากชี้ชัดว่าทางรถร่วมเป็นฝ่ายผิดทางบริษัทกมลประกันภัยจะต้องชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลของผู้เสียหายทั้งหมดตามกรมธรรม์ซึ่งทางบริษัทกมลฯ ก็พร้อมอยู่แล้วที่จะดำเนินการ แต่ต้องรอผลทางคดีในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้อีกครั้ง ขณะนี้ทางเจ้าของรถร่วมสาย 25 คันที่เกิดเหตุได้เซ็นรับทราบกับทางโรงพยาบาล และรับเป็นเจ้าของไข้เพื่อช่วยเหลือดูแล
ดช. ธนวิทย์ อินธิพงศ์ชัย และนายนายสุรชัย อินธิพงศ์ชัย ในระหว่างรอผลทางคดี รวมถึงผู้อำนวยการเขตการเดินรถ ที่ 3 ซึ่งเป็นตัวแทน ขสมก.ได้ไปดูแลผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลและให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมด้วยแล้ว--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ