บอร์ดกรุงเทพดุสิตเวชการ อนุมัติแผนซื้อหุ้นเครือโรงพยาบาลภาคตะวันออก มุ่งเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน มั่นใจก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในภูมิภาค

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
คณะกรรมการ บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) ผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพและโรงพยาบาลในเครือทั่วประเทศ ลงมติเห็นชอบแผนการรวมธุรกิจบริษัทฯ และ 4 บริษัทโรงพยาบาลในเครือในภาคตะวันออก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งเครือข่ายบริการทางการแพทย์ และเร่งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สนองนโยบายการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ของเอเชีย
คณะกรรมการบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH มีมติเห็นชอบให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดจากกลุ่มบริษัทในเครือ 4 แห่งที่ดำเนินกิจการในภาคตะวันออก ได้แก่ บริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จำกัด บริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง จำกัด บริษัท วัฒนเวช จำกัด ผู้ดำเนินการโรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี และบริษัท โรงพยาบาล กรุงเทพตราด จำกัด โดยมีบริษัท ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัท อัลเลน แอนด์ โอเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษากฎหมาย
นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ วิทยากร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างความแข็งแกร่งในการให้บริการทางการแพทย์ การเข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลือจะทำให้ BGH มีสัดส่วนการถือหุ้น 100% ในบริษัทในเครือทั้ง 4 แห่ง และผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทเหล่านี้ จะกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นของ BGH แทน เราเชื่อมั่นว่า การดำเนินการในครั้งนี้ จะทำให้กลุ่ม BGH มีความมั่นคงทางการเงินมากยิ่งขึ้น สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีให้แก่นักลงทุน เช่นเดียวกับการยกระดับการบริการให้แก่ประชาชนทั่วไปและลูกค้า
“การรวมกิจการระหว่าง BGH และบริษัทในเครือ จะช่วยทำให้เครือข่ายการให้บริการทางการแพทย์ของเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น อันจะส่งผลต่อศักยภาพการแข่งขันของกลุ่ม BGH และโรงพยาบาลแต่ละแห่งในภาคตะวันออก ตลอดจนยกระดับการบริการทางการแพทย์ ความช่วยเหลือทั้งในด้านการแพทย์ เครื่องมือ ความรู้ความชำนาญ การพัฒนาบุคลากร และการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ในภาพใหญ่ เราจะสามารถกำหนดกลยุทธ์รวมของโรงพยาบาลในภาคตะวันออก และขับเคลื่อนการพัฒนาไปในทางเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการทำงานที่รวดเร็วเป็นระบบเดียวกัน ลดการทำงานซ้ำซ้อน มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังจะช่วยประหยัดต้นทุนและการใช้จ่ายในการดำเนินงานจากการใช้ทรัพยากรร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย”
ปัจจุบัน BGH ถือหุ้นในบริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จำกัด 49% ในบริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง 81% ในบริษัท วัฒนเวช (โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี) 62% และในบริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพตราด 63%
BGH จะทำคำเสนอซื้อหุ้นจากโรงพยาบาลในเครือทั้ง 4 แห่ง ดังนี้ เสนอซื้อหุ้นบริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ในราคาหุ้นละ 35.84 บาท บริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพระยอง ราคาหุ้นละ 12.07 บาท บริษัท วัฒนเวช (โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี) ราคาหุ้นละ 26.98 บาท และเสนอซื้อหุ้นบริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพตราด ในราคาหุ้นละ 5.02 บาท โดยราคาพาร์ BGH 1 บาท โรงพยาบาลกรุงเทพตราด ราคาพาร์ 5 บาท ส่วนบริษัทอื่นๆ อีก 3 แห่งราคาพาร์ 10 บาท
ทั้งนี้ BGH จะใช้หุ้น BGH ส่วนหนึ่งที่เป็นหุ้นเดิมที่ถืออยู่โดยโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาจำนวน 39,183,026 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 14.59 บาท และหุ้นใหม่เพิ่มทุนของ BGH ไม่เกิน 20 ล้านหุ้น หรือมูลค่า 290 ล้านบาท มาแลกซื้อหุ้นของบริษัทในเครือทั้ง 4 แห่ง ซึ่งจะมีผลให้เกิด Dilution Effect ในหุ้น BGH ประมาณ 1.69%
“เราตัดสินใจที่จะปรับโครงสร้างการถือหุ้นเพื่อรวมกิจการบริษัทในเครือในภาคตะวันออกเข้ากับ BGH นั้น เนื่องจากเล็งเห็นว่า ภาคตะวันออกเป็นภาคที่มีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง มีศักยภาพในการเติบโตสูงมากแห่งหนึ่ง เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่ได้รับการสนับสนุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญด้านอุตสาหกรรมต่างๆ และการคมนาคมขนส่งของประเทศ นอกจากนี้ ความต้องการบริการทางการแพทย์ในภาคนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การรวมกิจการในครั้งนี้ จะทำให้โรงพยาบาลในเครือทั้ง 4 แห่ง มีความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคในพื้นที่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเอื้อให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย” นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ กล่าว
หลังจากที่คณะกรรมการบริษัท BGH ได้มีมติเห็นชอบแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทและกลุ่มบริษัทในเครือในภาคตะวันออกแล้ว จะได้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติแผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวในวันที่ 17 ตุลาคม ศกนี้ และคาดว่าการปรับโครงสร้างการถือหุ้นเพื่อรวมกิจการในครั้งนี้จะเสร็จสิ้นภายในปี 2548
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินกิจการโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในนาม“โรงพยาบาลกรุงเทพ” มาตั้งแต่ พ.ศ. 2515 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการทางการแพทย์ที่ครบวงจรแก่ ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001: 2000 และการรับรองมาตรฐานโรงพยาบาล (HA: Hospital Accreditation) จากสถาบันพัฒนาและรับรองมาตรฐานโรงพยาบาล (พรพ.) กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนมาตรฐาน ISO 14001 ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม และมาตรฐาน มอก. 18001/OHSAS18001 ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการลงทุนในธุรกิจด้านการรักษาพยาบาลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ 14 แห่ง และธุรกิจอื่นๆ ทั่วประเทศ โรงพยาบาล ยังได้รับการคัดเลือกจากแพทยสภาให้เป็นสถาบันหลักในการศึกษาต่อเนื่องของแพทย์ (CME: Continuing Medical Education)
แถลงข่าวในนาม : บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเพิ่มเติม : โกวิท สว่างวารีสกุล
([email protected])
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 0 205 6613--จบ--