นางเกษมศรี หอมชื่น ผู้ว่าการ วว. ชี้แจงว่า วว.และบริษัท COLLAGEN จำกัด ลงนามความร่วมมือในการศึกษาวิจัยสารสำคัญจากน้ำทะเลลึก ทั้งนี้ความร่วมมือจะครอบคลุมในการวิจัยสาขาเภสัชวิทยา เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีเกษตร การวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ และด้านอื่นๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน โดยความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลาทั้งสิ้น 5 ปี ซึ่งทั้งสองหน่วยงานจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านงานวิจัยระหว่างกัน รวมทั้งร่วมดำเนินงานวิจัยและพัฒนางานวิจัย ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรเพื่อเรียนรู้เทคนิคด้านงานวิจัยที่จำเป็นร่วมกัน
“...วว. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่การลงนามความร่วมมือกับบริษัท COLLAGEN จำกัดในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของความร่วมมือกับภาคเอกชนที่ตระหนักถึงความสำคัญของการนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ซึ่ง วว. นั้นเป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากร เครื่องมือ ตลอดจนข้อมูลทางวิชาการ ที่จะให้การสนับสนุนการทำงานและทำงานวิจัยร่วมกันได้อย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่างานวิจัยที่ได้ดำเนินงานร่วมกันเมื่อเกิดผลสัมฤทธิ์ จะก่อให้เกิดทางเลือกใหม่สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพรวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรจากน้ำทะเลลึก อันจะเป็นประโยชน์โดยตรงสำหรับผู้บริโภค..” ผู้ว่าการ วว.กล่าวเพิ่มเติม
นายหย่งเซิง แซ่คิว ประธานบริหารบริษัท COLLAGEN จำกัด ชี้แจงเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการสกัดสารสำคัญจากน้ำทะเลลึก ซึ่งได้จดสิทธิบัตรดังกล่าวทั้งในประเทศและระดับนานาชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสารสำคัญจากน้ำทะเลนั้นถือเป็นวัตถุดิบที่มีคุณประโยชน์สำหรับใช้ในการผลิตอาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ยา ด้านการเกษตร และอื่นๆ
ดังนั้นบริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแสวงหาองค์กรความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ที่มีศักยภาพ ซึ่ง วว.ถือเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงและมีผลงานเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงได้ร่วมกันหาแนวทางในการนำสารสกัดจากทะเลลึกมาต่อยอดงานวิจัย และยกระดับการผลิตผลิตภัณฑ์ทางด้านอาหารเครื่องดื่ม เครื่องสำอางและยา ให้เป็นที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
อนึ่ง วว. เป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการวิจัยพัฒนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และด้านพลังงาน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยีได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการให้บริการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยกระดับคุณภาพของสินค้าและบริการให้ได้คุณภาพมาตรฐานระดับสากล เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังมุ่งผลักดันให้งานวิจัยพัฒนาให้สามารถพัฒนานำไปประกอบเป็นธุรกิจในเชิงพาณิชย์ ลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ