บริษัท เฮมพกรีน อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการ “โครงการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” เพื่อส่งเสริมการปลูกปอ โดยรับการสนับสนุนข้อมูลวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย และการผลิตเมล็ดพันธุ์ปอจาก “กรมวิชาการเกษตร"ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ดำเนินโดยส่งเสริมให้เกษตรกรร่วมสมาชิกโครงการส่งเสริมปลูกปอ เพื่อส่งเสริมความรู้ในการปลูกเพื่อให้ได้ปอที่มีคุณภาพ และพร้อมรับซื้อเส้นใยปอที่เก็บเกี่ยวได้ในราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ปอสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมได้อย่างน่าทึ่ง อาทิ เส้นใยปอสามารถนำไปผ่านกระบวนการลอก และแช่น้ำฟอกเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมการสิ่งทอ และส่วนอื่นๆของต้นปอสามารถนำไปแปรรูปเป็น เชือก ด้าย ผ้ากระสอบ
ขณะเดียวกันหากนำใยปอไปตากแห้งก็สามารถนำไปผลิตกระดาษ รวมถึงแปรรูปเป็นงานหัตถกรรมต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน และที่สำคัญเส้นใยปอยังสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ได้อีกด้วยส่วนเมล็ดของปอยังสามารถแปรรูปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง น้ำมันชีวภาพซึ่งจะให้น้ำมันพืชที่มีโปรตีนและโอเมก้าสูง และสามารถนำไปเป็นส่วนผสมอุตสาหกรรมหล่อลื่น คุณประโยชน์ของปอต้นเล็กๆ ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น แม้แต่แกนปอก็สามารถนำมาแปรรูปใช้เป็นวัตถุดิบได้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท ขณะที่เศษแกนปอก็ใช้เป็นที่นอนสัตว์ต่างๆ และใช้เป็นที่ซับน้ำมันได้ และเศษแกนยังสามารถใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างได้โดยนำไปผสมทำอิฐโครงการดังกล่าวนี้ เป็นการพัฒนานวัตกรรมใหม่โดยการใช้เทคโนโลยีของเครื่องจักรกลมาทดแทนการแช่ฟอกปอแบบเก่าในน้ำ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดน้ำในแหล่งต่างๆ เน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นเป็นที่รำคาญ
นอกจากนี้เทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้ยังสามารถนำวัสดุจากธรรมชาติไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมอาชืพให้กับเกษตรกร ให้พวกเขาสามารถมีทางเลือกในการหารายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
บริษัท เฮมพกรีน อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด Hemp Green Innovation (Thailand) Co., Ltd.ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 28 มิถุนายน 2554 ด้วยทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท (ชาระเต็ม) ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและส่งเสริมผลิตผลทางการเกษตรเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรที่เพาะปลูกปอหลังฤดูการเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งปอเป็นพืชที่ปลูกง่าย ขึ้นได้ทั่วไปในสภาพอากาศของประเทศไทย อีกทั้งช่วยแก้ปัญหาเรื่องของนาร้าง และยังช่วยส่งเสริมการลดภาวะลดโลกร้อนเนื่องจากต้นปอเป็นพืชที่โตไวมีคุณสมบัติช่วยลดมลพิษ และช่วยดูดซับคาร์บอนในอากาศได้ดีกว่าพืชหลายชนิด
ปัจจุบันโรงงานผลิตเส้นใยปอ ตั้งอยู่ที่ 115 หมู่3 ถนนทางหลวง23 (แจ้งสนิท) ตาบลศรีสุข อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี 34150 (บนเนื้อที่ 10 ไร่) และ ศูนย์ทดลองปลูก วิจัย และพัฒนาพันธุ์ปอ ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวง 23 (แจ้งสนิท) ตาบลหัวดอน อำเภอเขื่องใน จ.อุบลราชธานี 34150 (บนเนื้อที่ 7 ไร่)
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ :
นายบรรจบ องค์ธนะสิน (กรรมการผู้จัดการ)
โทรมือถือ: (081) 812-7696
E-mail : [email protected]