นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานโออิชิที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งมีน้ำท่วมขังสูง จนทำให้โรงงานต้องหยุดการผลิตตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุด สถานการณ์ได้กลับสู่สภาวะปกติ น้ำที่เคยท่วมได้ลดลงจนแห้งสนิทแล้ว โออิชิ จึงได้เริ่มเดินหน้าฟื้นฟูโรงงานเพื่อให้สามารถกลับมาผลิตสินค้าได้ตามปกติตามแผนที่วางไว้ สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคสินค้าของ โออิชิ และเตรียมพร้อมสำหรับหน้าร้อนปีหน้า ซึ่งเป็นหน้าไฮซีซั่นของตลาดเครื่องดื่ม
จากการสำรวจความเสียหายของโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครนั้น โรงงานใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตและบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อที่ทันสมัยที่สุดจากประเทศญี่ปุ่น หรือ Cold Aseptic Filling แบบขวดใส และกล่องกระดาษยูเอชที ซึ่งเพื่งมีการเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้รับความเสียหายทั้ง 2 โรง โดยในส่วนของโรงงาน Cold Aseptic Filling ที่ผลิตและบรรจุในขวดใส (PET) ได้รับผลกระทบบริเวณชั้นล่างซึ่งเป็นเครื่องจักรต้นกำลัง ที่ใช้ในการผลิต ลม น้ำ ไฟฟ้า และความเย็น ซึ่งจะต้องมีการนำเครื่องจักรใหม่มาแทนทั้งหมด ส่วนเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตและบรรจุชาเขียวซึ่งเป็นหัวใจในการผลิตแม้จะไม่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากตั้งอยู่บนชั้น 2 ของตัวอาคาร แต่ก็ได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่สามารถผลิตได้ ด้านโรงงานผลิตและบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อในกล่องกระดาษยูเอชที ได้รับความเสียหายทั้งหมดยกเว้นส่วนของการสกัดชา ที่ตั้งอยู่ชั้นบน โดยคาดว่าโรงงานแห่งใหม่นี้จะกลับมาเดินเครื่องผลิตได้ใหม่ในเดือนมีนาคม 2555
ในวันนี้ โออิชิ ยังได้จัดให้มีกิจกรรม โออิชิ รวมพลัง รวมใจ Big Cleaning Day เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในการพลิกฟื้นโรงงานให้กลับมาผลิตตามแผนฟื้นฟูของบริษัทฯ ที่วางไว้ โดยมีพนักงานและผู้บริหารเข้าร่วมงานถึงกว่า 500 คน ทั้งนี้ พนักงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ยังคงได้รับเงินเดือน สวัสดิการ และโบนัสประจำปีตามแผนการดำเนินงานเดิม โดยมีการย้ายไปประจำการชั่วคราวที่สำนักงานใหญ่ และโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร “พนักงานถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุด และเป็นตัวแปรในการสร้างความสำเร็จที่สำคัญ ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมของบริษัทฯ ให้ประสบความสำเร็จ โดยโออิชิ ยังคงมุ่งเน้นการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เพื่อสร้างความแตกต่าง และตอบสนองกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย” นายแมทธิวกล่าวเสริม